วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เวลา 07.30 น. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ใส่บาตรพระสงฆ์ที่นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมทำบุญใส่บาตรบนหลังช้างเนื่องในวัน “อาสาฬหบูชา” จำนวนมาก มีขบวนช้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โดยให้พระเถรชั้นผู้ใหญ่ พร้อมพระภิกษุ สามเณรนั่งบนหลังช้างรับบิณทบาตรจากประชาชน
การใส่บาตรบนหลังช้าง ซึ่งถือว่าเป็น “หนึ่งเดียวในโลก” โดยการทำบุญใส่บาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมทำบุญใส่บาตรเนื่องในวัน “อาสาฬหบูชา” มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศมาร่วมทำบุญใส่บาตรในครี้งนี้ได้ทำบุญ และได้บริจาคเงินทำบุญให้กับช้างซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ และ สัตว์มงคล ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านานด้วย
โดยพุทธศาสนิกชนที่มาใส่บาตร จะแต่งกายด้วยชุดผ้าไหม หรือแต่งกายชุดผ้าพื้นเมืองของ จังหวัดสุรินทร์ พากันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแด่ตนเองและครอบครัว ที่รับวัน “อาสฬหบูชา” เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วย
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยว ไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ ที่บ้านท่าสว่าง อ.เมือง เรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีผ้าไหมจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ และตื่นตาไปกับศิลปะการถักทอเส้นไหมอันสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณ จำนวน 1,416 ตะกอ, หมู่บ้านช้าง อ.ท่าตูม เรียนรู้วิถีชีวิตชาว “กวย” หรือ “ กูย” ความสัมผัสความผูกพันระหว่างคนกับช้าง ที่เลี้ยงช้างเป็นเสมือนดั่งสมาชิกในครอบครัว มากกว่าการเลี้ยงมุ่งเน้นการเลี้ยงช้างไปเพื่อการงานหรือธุรกิจ ปราสาทศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ ชมภาพสลักนางอัปสราหินทรายที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย, หมู่บ้านเครื่องเงิน ที่ อ.เขวาสินรินทร์, และ กราบไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สถิตอยู่บนเขาพนมสวาย ค.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์
ภาพ/ข่าว - วิจิตร ชุณหกิจขจร สำนักข่าวเนชั่น จ.สุรินทร์