บิ๊กตู่ ต้อนรับ รมว.ต่างประเทศจีน พร้อมโชว์พูดจีน ร่วมแรงใจเป็นหนึ่งเดียว

วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหวัง อี้ (H.E. Mr. Wang Yi) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต้อนรับ นายหวัง อี้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ขอขอบคุณความร่วมมือที่ได้รับจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งจีน พร้อมแสดงความห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยทางตอนใต้ของจีน เชื่อว่าจีนจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเร็วเช่นที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ ยังฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง พร้อมยินดีกับความสัมพันธ์ไทย - จีน ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ รวมทั้งยินดีกับการครบรอบหนึ่งทศวรรษของความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านในปีนี้
 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนาหุ้นส่วนสู่ทศวรรษหน้า และทราบว่าในการหารือระหว่างนายหวัง อี้ กับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จีนและไทยเห็นพ้องกับหลักการต่อแนวคิดที่จะตั้งเป้าหมายพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อปูทางสู่ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 (ค.ศ. 2025) 

ด้านนายหวัง อี้ กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้เดินทางเยือนไทย และชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ที่รักษาเสถียรภาพทางสังคม พร้อมส่งเสริมพัฒนาทางเศรษฐกิจ ดูแลจัดการความท้าทายเรื่องโควิด-19 ได้อย่างดี ซึ่งเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีจะพัฒนาประเทศไทยได้ดีขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ไทยจีนที่พัฒนาไปด้วยดีไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นเพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และ พล.อ.ประยุทธฺ มีความเข้าใจต่อกัน ในปีนี้ครบ 10 ปี “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” จะต้องวางแผนร่วมกันถึงความร่วมมือในอนาคต ร่วมกันสร้างประชาคมเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ร่วมกัน

จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยในด้านการค้า พล.อ.ประยุทธ์ ยินดีกับมูลค่าการค้าระหว่างกัน ปีนี้ช่วงเวลา ม.ค. – เม.ย. การค้าขยายตัวกว่าร้อยละ 20 เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ พร้อมขอบคุณจีนที่ตอบสนองต่อข้อเสนอของไทย ในการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 จากไทยไปจีน และได้เสนอให้จีนพิจารณาเร่งรัดการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าผลไม้ในด่านอื่น ๆ ของฝั่งจีน
ด้านการลงทุน ได้เชิญชวนให้จีน พิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย ด้วยศักยภาพจากจุดยุทธศาสตร์ของไทย การเป็นจุดเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งพร้อมรองรับการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมที่บริษัทของจีนมีศักยภาพ และความเชี่ยวชาญ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมการเกษตร
 

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการรถไฟไทย-จีน อย่างเต็มที่เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะไปติดตามปัญหาที่ติดขัดเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในภูมิภาค โดยจีนเสนอให้จัดการประชุมสามฝ่ายเพื่อให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว

ส่วนเรื่องการเดินทางระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณจีน ที่อนุญาตให้สายการบินพาณิชย์ของไทยกลับไปทำการบิน และให้นักศึกษาไทยทยอยเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่จีน ซึ่งฝ่ายจีนได้กล่าวว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นจะส่งผลให้มีเที่ยวบินมากขึ้น และสนับสนุนการเดินทางระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้น

ส่วนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย จีนยืนยันสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าขอรับความร่วมมือจากจีนต่อ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือรับมือในกับสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีความไม่แน่นอนสูงร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายจีนกล่าวว่าหากไม่มีข้อติดขัดอื่นใด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทย

ทั้งนี้ ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับ นายหวัง อี้  เป็นภาษาจีนว่า “ฉีซินเฉียลี่ ชื่อชื่อชุ่นลี่ (Qixin xieli shishi shunli)” ร่วมแรงใจเป็นหนึ่งเดียว เรื่องต่างๆ ก็จะราบรื่น หากร่วมมือกันแม้แต่ขุนเขาก็สามารถเคลื่อนได้