ทางการอุซเบกิสถาน เปิดเผยในวันนี้ (4 ก.ค.) ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย ผู้บาดเจ็บ 243 คน และผู้ถูกจับกุม 516 คนระหว่างเหตุประท้วงและความรุนแรงในแคว้นการากัลปักสถาน ที่เป็นเขตปกครองตนเองเมื่อวันที่ 1 ก.ค. แต่ผู้ถูกจับกุมส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
ผู้ประท้วงเริ่มเดินขบวนในเมืองนูกุส เมืองเอกของแคว้นการากัลปักสถานทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และพยายามเข้ายึดหน่วยราชการ กลายเป็นเหตุรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 20 ปีของประเทศที่มีประชากร 34 ล้านคน
ต่อมาประธานธิบดี ชาฟกัต มีร์ซิโยเยฟ ประกาศเมื่อวันเสาร์ยกเลิกแผนแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิกถอนสถานะปกครองตนเอง และตัดสิทธิการจัดประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของแคว้นการากัลปักสถาน และเขายังประกาศภาวะฉุกเฉินในแคว้นแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน
การากัลปักสถานมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลอารัล และเป็นถิ่นฐานของชนกลุ่มน้อยการากัลปัก ซึ่งมีภาษาใกล้เคียงกับภาษาคาซักมากกว่าภาษาอุซเบก
ขณะที่ปูลัต อาฮูนอฟ นักการเมืองฝ่ายค้านที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ แสดงความวิตกว่า สถานการณ์อาจลุกลามเกินกว่าจะควบคุมได้ และอาจกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์อุซเบก และการากัลปัก ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด