วันที่ 23 มิถุนายน 2565 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแห่งใหม่ บริเวณ พื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญให้กำลังใจข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวกว่า 2,000 นาย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ให้โอวาทตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวตอนหนึ่งระบุว่า ให้ยึดถือเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นโจทย์ในการแก้ปัญหา และป้องกันเหตุที่เกิดขึ้น และให้เป็นตัวกลางประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น กรณีนักท่องเที่ยวเกิดเหตุน้ำตก จ.ภูเก็ต ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีการดูแล หรือประเมินความปลอดภัย แต่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการ
“ตำรวจท่องเที่ยวต้องประเมินความพร้อมของสถานที่ท่องเที่ียวว่าปลอดภัยหรือไม่ และที่สำคัญจะต้องมีระบบในการขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุ และต้องมีหน้าที่ประสานงานภาคเอกชน และนักท่องเที่ยว และอีกเรื่องที่สำคัญคือการฝึกยุทธวิธี อย่างเช่นการขับไล่ล่าผู้ค้ายา จ.สระบุรีที่ไล่ล่าหลายหน่วย แต่คนร้ายหลุดไปได้ เรื่องนี้เราต้องยอมรับ และนำมาปรับปรุง เน้นประสิทธิภาพคู่ไปกับความปลอดภัย”
ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ระบุว่า นโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญผลักดันฟื้นตัวการท่องเที่ยว และปรับมาตรการป้องกันโรคในการเดินทางเข้าประเทศเริ่ม 1 ก.ค.นี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเข้าประเทศได้สะดวก จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย บช.ทท. และ สตม. ได้เตรียมมาตรการรองรับ 3 มาตรการ ดังนี้
1. ด้านความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ไว้ประจำสนามบินนานาชาติ ทั้ง 5 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ กว่า 2,000 นาย มีการเสนอให้ยกเว้นการยื่นรายการของคนต่างด้าว (แบบ ตม.6) เฉพาะกรณีการเดินทางผ่านด่านท่าอากาศยาน อยู่ระหว่างรอผู้มีอำนาจลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่ามีผลบังคับใช้ประมาณปลายเดือน มิ.ย. นี้ และทำโครงการนำร่อง การขอินุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Extension นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในการให้บริการ ลดขั้นตอนความแออัด
2. ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้เชิญผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว มาประชุมเพื่อขอความร่วมมือการแจ้งที่พักตามกฎหมาย ให้กวดขันตรวจตราผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนและให้ตำรวจท่องเที่ยว ประสานผู้ประกอบการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว รวมไปถึงโครงการTourist Police i lert u เป็น Application ให้นักท่องเที่ยว download ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นช่องทางการติดต่อช่วยนักท่องเที่ยว
“ถ้าหากเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว App ดังกล่าวยังสามารถระบุพิกัดสถานที่ของนักท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ และนำไปสู่การประสานงานและช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยข้อมูลจากนักท่องเที่ยวจะถูกส่งต่อไปยังศูนย์ Hot line 1155 ให้บริการ 30 คู่สาย ตลอด 24 ชม. มีล่ามภาษา 5 ภาษา คือ อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย จีน พร้อมให้บริการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ แจ้งเหตุ ร่วมกับ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 32 สถานี และบูรณาการกับหมายเลขศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 สอดประสานทำงานร่วมกับสถานีตำรวจทั่วประเทศอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว”
และ 3. ให้นักท่องเที่ยวเกิดความ “อบอุ่น ประทับใจ” และขอความร่วมมือภาคีเครือข่าย และประชาชนดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความ “อบอุ่น ประทับใจ” สถานที่ท่องเที่ยวต้องมีมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด