22 มิถุนายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวปาถกฐาพิเศษ ในหัวข้อ "ทิศทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย" ในงาน "CEO Forum, Collaboration for Low-Carbon Society" ว่า ตนยืนอยู่ในจุดที่ตอนนี้สวมหมวก 2 ใบ ใบแรก คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใบที่สอง คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุพรรณบุรี
"วันนี้ผมมาพร้อมกับส.ส.สุพรรณอีกหนึ่งท่าน นายสรชัด สุจิตต์ มาเพื่อยืนยันว่าองค์กรของเรา ได้รับผลกระทบจาก Climate change อย่างมาก สุพรรณบุรีมีน้ำท่วมเป็นระยะ ในปีนี้น้ำเยอะมากคาดว่า ก.ย.-ต.ค.นี้ จะมีน้ำท่วมอีกครั้ง" นายวราวุธ กล่าว
ขณะเดียวกัน หากอนาคตจะทำ Carbon Neutrality ให้สำเร็จภายในปี 2050-2065 ต้องการ 3 อย่าง
1.เงินสนับสนุนในการพัฒนาเทคโนโลยี
2.เทคโนโลยี ทรานเฟอร์ ประเทศใดที่มีแนวทางที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
3.สร้างบุคลากรในประเทศ
สำหรับแนวทางและมาตรการที่จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกมีหลายมิติในหลายกระทรวง ทั้งการใช้พลังงานทดแทน การใช้โซล่าเซลล์ การใช้ไฮโดรพาวเวอร์ ส่งเสริมการใช้งานรถ EV ให้มากขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีการเกษตร การทำนาสมัยก่อน ทำให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเทศเยอรมันจึงร่วมมือกับประเทศไทยทำนาวิถีใหม่ ปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง ผลที่เกิดขึ้น คือ ผลผลิตเพิ่มขึ้น 20-30% ลดการปล่อยก๊าซมีเทนถึง 70%
"วันนี้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประเทศไทยต้องกลับมาดูจุดแข็งภายในประเทศ เพื่อเสริมจุดแข็งที่มีอยู่ และเอาไปสร้างจุดแข็งใหม่ในประเทศไทย ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานอยู่ 6 ด้านที่ช่วยผลักดันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคเอกชนและอุตสาหกรรม" นายวราวุธ กล่าว
ส่วนแรกจะเป็นด้านนโยบายและกฎหมาย การบูรณาการเป้าหมาย Zet Zero บูรณาการกับกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ด้านที่สอง เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านที่สาม งบประมาณและการลงทุน ด้านที่สี่ การพัฒนากลไกคาร์บอนเครดิตทั้งในและต่างประเทศ และตั้งใจจะให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตในอาเซียน ด้านที่ห้า การเพิ่มภาคการดูดทรัพย์ ด้านที่หก เร่งศึกษาความเหมาะสมในการใช้เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีคาร์บอน ฟุตพริ้น