“วราวุธ” ลุย สวิตเซอร์แลนด์ ทำข้อตกลงซื้อขายคาร์บอนเครดิต คู่แรกของโลก
“วราวุธ” ลุย สวิตเซอร์แลนด์ ทำข้อตกลงซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศคู่แรกของโลก พร้อมโชว์ผลงานการลดขยะพลาสติกลงทะเล ในที่ประชุมนานาชาติ โปรตุเกส
22 มิถุนายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย พร้อมคณะเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์และโปรตุเกส เพื่อลงนาม MOU ต่อเนื่อง ซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศและเข้าร่วมประชุมนานาชาติการดูแลรักษามหาสมุทร ระหว่างวันที่ 22 มิ.ย. - 1 ก.ค. 65
นายวราวุธ เปิดเผยว่า จะเดินทางไปกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก่อน เพื่อพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อการลงนาม MOU ต่อเนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2564 เกี่ยวกับการพัฒนาเรื่อง climate change ระหว่างไทยกับสวิตเซอร์แลนด์ ในครั้งนี้เราจะทำการตกลงซื้อขายระหว่างประเทศต่อประเทศ ภายใต้ข้อตกลง Paris Agreement Aticle 6.2 เป็นคู่แรกของโลกที่เซ็นสัญญาระหว่างประเทศ การทำเช่นนี้จะเอื้อให้เอกชนระหว่างไทย-สวิตเซอร์แลนด์มีการแลกเปลี่ยน อาทิ ด้านเทคโนโลยี เงินลงทุน ในทางกลับกันประเทศไทยจะมีการแลกคาร์บอนเครดิตกับทางสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับเงื่อนไขสำคัญ ในการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต ภายใต้ข้อตกลงปารีส คือ เมื่อแลกคาร์บอนเครดิตแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเทคโนโลยีหรือเงินลงทุน ซึ่งมากกว่าปริมาณคาร์บอนที่เราปลดปล่อย จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดข้อตกลงขึ้น ดังนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลว่า หากเราขายคาร์บอนเครดิตไปแล้วจะขาดทุน เพราะสิ่งที่ได้กลับมานั้นเพิ่มมากกว่า
ขณะที่ในช่วงครึ่งหลัง จะเดินทางไปที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เพื่อเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ เรื่องการดูแลรักษามหาสมุทร ภายใต้ องค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งการประชุมได้เลื่อนมาแล้ว 2 ครั้ง อันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเข้าร่วมในครั้งนี้ เพื่อแสดงเจตจำนง การอัปเดตข้อมูลเพื่อให้ทั่วโลกรู้ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ดำเนินการเรื่องมหาสมุทรอย่างไร
“เมื่อวันที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ประเทศไทยถูกตั้งเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ในการทิ้งขยะพลาสติกลงทะเล แต่ได้ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนและทุกหน่วยงาน วันนี้ประเทศไทยถูกลดลำดับลงมาเป็นอันดับที่ 10 แสดงให้เห็นว่าการทำงานของประเทศไทยมีความตั้งใจจริง และมีผลงานไปแสดงให้นานาประเทศได้เห็นว่า เราเป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียนที่ต่อสู้กับขยะในทะเล ซึ่งการไปเยือนทั้ง 2 ประเทศในครั้งนี้ จะเป็นการยืนยันความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทย ที่จะแก้ไขปัญหาเรื่อง climate change และดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับนานาอารยประเทศ” นายวราวุธ กล่าว
