"สุพัฒนพงษ์"แนะโรงกลั่นทำความเข้าใจปชช.ปมราคายันน้ำมันไม่ขาดแคลน

22 มิถุนายน 2565 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการขอความร่วมมือส่งกำไรค่าการกลั่นเข้ากองทุนน้ำมัน ว่า ช่วงสัปดาห์นี้ได้มีการหารือในเรื่องของการคิดค่ากำไรจากการกลั่น ซึ่งพยายามจะหาตัวเลขที่ลงตัว ในการนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันอยู่ที่ราคาเท่าไร โดยกระทรวงพลังงาน ค่าเฉลี่ย 6 เดือน อยู่ที่ 3.27 บาทต่อลิตร แต่ก็ยังมีความเห็นแตกต่าง เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่ยังยืนยันตัวเลขราคาที่ 8.50 บาทต่อลิตร ทำให้ประชาชนเข้าใจแตกต่างกัน

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า แนวทางที่ดีอยากให้ผู้ประกอบการโรงกลั่น นำข้อมูลของนายกรณ์ไปวิเคราะห์ดูว่า ตัวเลขมาจากไหน เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน รวมถึงต้องนำตัวเลขของสมาคมโรงกลั่นมาพิจารณาด้วย ซึ่งส่วนตัวอยากได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ได้หารือกับผู้ประกอบการทั้ง 6 โรงกลั่น ซึ่งยืนยันว่าอยากจะช่วยเหลือประชาชน แต่หากไม่ได้ข้อสรุป ก็ต้องดูในเรื่องของกฎหมายที่ต้องออกมา ขณะเดียวกันไม่มั่นใจว่าเงินที่จะเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน จะถึง 7,000 ล้านบาท ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผลการหารือกับทางโรงกลั่นก่อน

ทั้งนี้ อยากย้ำว่าราคาน้ำมันในประเทศไทยไม่ได้แพงกว่ากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง เวียดนาม ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 43 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินไทย ก็อยู่ในอันดับ 7 หรือ 8 ในอาเซียน จากทั้งหมด 10 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลพยายามช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าสถานภาพด้านน้ำมันในไทย ยังมีใช้ไม่มีขาดแคลน สิ่งสำคัญจะต้องรักษาเสถียรภาพด้านพลังงาน ต้องให้มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน และต้องมีผลต่อการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจต่อไปด้วย ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่จะต้องทำให้ได้ แต่รัฐบาลคงจะไม่ทุ่มงบประมาณลงไป เพื่อให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เพื่อแลกกับเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านการเงินการคลัง ซึ่งจะสุ่มเสี่ยงเกินไป

ด้าน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการหารือทั้ง 6 โรงกลั่น ซึ่งต้องพิจารณาอย่างเหมาะสม และต้องหาจุดสมดุล โดยคาดว่าจะได้ข้อยุติภายในเดือนนี้