วันนี้ (21 มิ.ย.) ช่วงค่ำ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์ผ่านช่องยูทูป โคนัน เมืองไทย ถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" หลังจากที่วันนี้นายอัจฉริยะเดินทางไปที่ สน.พหลโยธิน และ สน.ประชาชื่น เพื่อเข้ารับทราบข้อหา “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน-หมิ่นประมาทและผิด พ.รบ.คอมพิวเตอร์”
โดยนายอัจฉริยะได้วิจารณ์กรณีที่ถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดี โดยระบุว่า เป็นการแสดงถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น และไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งประกาศเตรียมที่จะเปิดเผยเรื่องบ่อนการพนันที่ลักลอบเปิดในพื้นที่ตำรวจนครบาล 2 อีกด้วย รวมถึงตั้งคำถามถึง ผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ถึงความถูกต้องในการถูกตำรวจดำเนินคดีครั้งนี้
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวชื่นชื่นกรณีที่อธิบดีอัยการภาค 1 สั่งตั้งคณะทำงานสอบเพิ่มคดี "แตงโม" กรอบระยะเวลา 15 วัน โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ แต่ยังเชื่อว่า ทางอัยการชุดเดิมจะพยายามทำสำนวนให้เหมือนเดิมคือ "คดีประมาท" โดยใช้หลักการว่า "แตงโม นิดา" ไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ
นอกจากนี้นายอัจฉริยะยังได้เปิดหลักฐานที่ทางเจ้าของอู่จอดเรือสปีดโบ๊ทเปิดให้ดู เป็นช่องลับขนาดเล็ก ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดี
นายอัจฉริยะ ย้ำว่า หากอธิบดีอัยการภาค 1 สั่งให้มีการสอบ 8 ประเด็นที่ตนร้องขอไป และมีการตรวจคราบเลือดบนเรือใหม่ ตนยินดีที่จะเชิญอธิบดีอัยการภาค 1 และแพทย์บางคนมาพิสูจน์ว่า มีการฆ่าเพื่อนบนเรือจริงหรือไม่ ยืนยันว่า ตนมีภาพต่างหลักฐาน ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ส่วนที่ยังไม่ยอมเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อป้องกันการโดนฟ้องกลั่นแกล้ง ตนเป็นคนทำคดีไม่ใช่แค่เอามัน แต่ต้องเอาให้จบ ไม่ใช่เปิดแล้วทำให้ตัวเองต้องมาเป็นผู้หาเดินสายทั่วประเทศ ย้ำอีกครั้งว่าตนมีหลักฐานจริง และให้คนดูส่วนตัวหลายคนแล้ว แต่ไม่ได้ให้ดูผ่านสื่อ ลำพังแค่ที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดหลักฐาน ก็ถูกดำเนินคดีแล้ว 5 คดี
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนที่มีการระบุว่าการที่ตนยื่นฟ้องตรงคดีแตงโมนั้น อาจจำให้คดีในส่วนสำนวนของอัยการเสียหายยืนยันว่า ตามข้อกฎหมายแล้วอัยการสามารถยื่นฟ้องร่วมได้เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน ศาลท่านจะสั่งเองถ้ามีมูลคดี ไม่มีอะไรที่บอกว่าสิ่งที่ตนทำนั้นทำให้เกิดความเสียหาย
หากผมได้ทำคดีแตงโมต่อรับคนบนเรือได้หนาวแน่นอน เพราะผมมีหลักฐานหมด ถ้าทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด อยากดูให้มาดูที่ผมได้เลย ถ้าไม่เช่นนั้นผมคงไม่กล้าฟ้องคดีอย่างแน่นอน และสิ่งที่ผมทำไปก็เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อความเป็นธรรมให้กับแตงโม