จับตาม็อบทะลุแก๊ซ 18 มิ.ย. เดือด หลัง 11 มวลชนเผารถ ตร. ถูกล็อกตัวเข้าเรือนจำ

ยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด สำหรับการนัดชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่ได้มีการนัดหมายชุมนุมผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทะลุแก๊ซ Thalugaz อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) ในกิจกรรม ราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ เดินไล่ตู่ 2 จากแยกปทุมวันไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 15:00 น. และวันที่ 19 มิ.ย. กิจกรรม ประชาชนปฏิรูป คาร์ม็อบไปบ้านประยุทธ์ จากหลักกิโลเมตรที่ 0 ไป ร.1 เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป 

โดยการนัดหมายชุมนุมครั้งนี้เป็นภาคต่อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายจับตามองว่า จะเกิดภาพความรุนแรงเหมือนการนัดหมายชุมนุมเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่ ?  

ทั้ง ๆ ที่เดิมเป็นเพียงการนัดหมายจัดกิจกรรม "ราษฎรเดินไล่ตู่" แต่สุดท้ายบานปลายเกิดภาพที่คุ้นตาคือการปะทะกับตำรวจหลังจากมีมวลชนพยามเดินทางไปที่บ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ ร.1 และยังปรากฎภาพของกลุ่มผู้ชุมนุมเผาทำลายทรัพย์สินราชการ ด้วยการเผารถยนต์ตำรวจ สน.ดินแดง 

ซึ่งกรณีนี้ภายหลัง ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้หลายราย และหนึ่งในนั้นพบเป็นเยาวชน โดยล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) อาจมีปมให้การนัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อเพจ ทะลุแก๊ซ Thalugaz ได้ออกมาโพสต์แจ้งมวลชนว่า

ด่วน! ผู้ชุมนุมม็อบดินแดงจำนวน 11 คน ไม่ได้รับการประกันตัว และกำลังถูกส่งตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 

และยังโพสต์ระบุว่า ถึง ผู้มีส่วนร่วมในกระบวนการอยุติธรรมทุกท่าน
การที่ยัดคนเข้าคุกเป็นคดีตัวอย่างเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ได้ทำให้ประชาชนเกรงกลัว แต่จะกระตุ้นให้คนอยากลุกขึ้นมาต่อต้านมากยิ่งขึ้น 
 

ขณะที่ นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก "อานนท์ นำภา" ระบุเนื้อหาว่า...

สันติวิธี ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิดกฎหมาย มันอาจผิดกฎหมายหรืออาจเรียกว่าผู้กระทำจงใจทำผิดกฎหมาย เพื่อการต่อสู้ให้เห็นถึงความเลวร้ายกว่าซึ่งอยู่เบื้องหลังกฎหมายหรืออยู่เหนือกฎหมายนั้น

สันติวิธีพื้นฐาน อาจไม่ต้องเถียงกันมาก เช่น นั่งพับเพียบชุมนุม หรือยืนเฉยๆ แต่สันติวีธีขั้นสูง มันมีเพดานสูงกว่ามาก บางครั้งหลายสังคมยังถกเถียงกันอยู่ว่าแบบนั้น เช่นนั้น เป็นสันติวิธีหรือไม่

แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ ในบางสังคมไม่เคยตั้งคำถามถึงการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐเรื่องสันติวิธีเลย หรือจะพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือรัฐสามารถผูกขาดการใช้ความรุนแรงได้ฝ่ายเดียวและไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อความสูญเสียอย่างประเทศไทย เป็นต้น