แต่จุดเปราะบางทางการเมืองไม่ได้มีแค่เฉพาะเรื่องศึกซักฟอก
"ข่าวข้นคนข่าว" ได้รับช้อมูลจากสภาเป็นปฏิทินการเมืองนับจากนี้ จนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนี้
- 16-17 มิ.ย. เป็นการประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ
เรื่องนี้ประชุมมาแล้ว 1 สัปดาห์ 2 นัด ต่อวันนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่พิจารณาเนื้อหาคืบหน้าน้อยมาก สัปดาห์แรกผ่านไปเพียง 13 มาตรา จาก 172 มาตรา
ล่าสุดฝ่ายค้าน โดย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ออกมาโวยรัฐบาลว่าอย่าใช้เผด็จการรัฐสภา ยื้อการพิจารณาไปเรื่อยๆ เพื่อให้กระทบกับร่างแก้ไขกฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับ ซึ่งรอจ่อคิวอยู่
- 22-23 มิ.ย. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างกฎหมายทั่วไป
- 24 มิ.ย.ประชุมร่วมของรัฐสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ
- 29-30 มิ.ย. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
- 1 ก.ค. ประชุมร่วมของรัฐสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจให้แล้วเสร็จ
- 5-6 ก.ค. ประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายลูกเลือกตั้ง วาระ 2-3
มีการวางไทม์ไลน์เวลากันไว้แล้ว เพราะการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ฝ่ายค้านกังวลว่า เมื่อถึงกำหนดเวลาที่จะพิจารณา จะยังพิจารณาไม่ได้ เพราะติดร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่ยืดเยื้อจนกระทบไทม์ไลน์กฎหมายลูก และรัฐบาลอยู่ยาวไปเรื่อยๆ โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายลูกเลือกตั้ง
ส่วนพรรคเล็กเคลื่อนไหวหนัก ให้ย้อนกลับมาโหวตสูตรหาร 500 ที่ล่าสุด 42 พรรคเล็กทั้งในและนอกสภายื่นหนังสือถึงพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้าของร่างแก้ไขกฎหมายลูกเลือกตั้ง ให้สนับสนุนสูตรหาร 500
สำหรับฝ่ายที่สนับสนุนสูตรหาร 500 มีพรรคเล็ก พรรคขนาดกลาง และ ส.ว. เริ่มนำเจตนารมณ์ท้ายรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่มาชี้ให้เห็นว่า การคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องคำนึงถึงหลัก 1 สิทธิ 1 เสียง เพื่อไม่ให้คะแนนตกน้ำ รวมถึงสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็ก และประเด็นนี้จะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันพิจารณา ในวาระ 2 และ 3
- 7-8 ก.ค. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณากระทู้ถาม และกฎหมาย
- 18-22 ก.ค. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี ของฝ่ายค้าน
ขณะเดียวกัน ต้องจับตาความเคลื่อนไหวในสภาของกลุ่มพรรคเล็ก และพรรคเศรษฐกิจไทย รวมถึงงูเห่าในพรรคฝ่ายค้าน อาจมีบรรยากาศของการเจรจาต่อรอง และอาจมีกล้วยหล่นเรี่ยราดให้ได้เห็นเหมือนกัน
- 23 ก.ค. ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะเกิดขึ้นหรือไม่ ก็คงต้องมาลุ้นกัน