15 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่า นายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี และ น.ส.พจนีย์ แช่หลี หรือ มี่ อายุ 36 ปี สามีภรรยาท้องลูกแฝดที่ไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ศาลได้ออกมาจับ นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีแล้ว ว่า ภายในหมู่บ้านใหม่หนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ มีการกล่าวถึงคลิปความยาว 16 นาที ของนายสันติ ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทยและได้บันทึกเสียงตัวเองส่งให้แก่ภรรยาที่ประเทศไต้หวัน ต่อมาได้ส่งต่อให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตคือ น.ส.พจนีย์ หรือ มี่
โดย น.ส.ถิงถิง น้องสาวของมี่ ซึ่งปกติอาศัยอยู่กับพี่สาวที่ประเทศไต้หวัน แต่ได้เดินทางกลับมาบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2565 ได้กล่าวว่า พี่สาวตนกับนายสันติเป็นเพื่อนที่มีความสนิทสนมกันมาก เรื่องยืมเงินของพี่มี่นั้นยืมกันก่อนที่จะไปไต้หวันแล้ว เป็นเรื่องของคนสองคน ตลอดเวลาที่อยู่ที่ประเทศไต้หวัน นายสันติเหมือนคนในครอบครัว ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ผิดปกติ
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน น้าชายได้โทรศัพท์มาหาตนว่า พี่สาวหายตัวไป 2 วันแล้ว และได้ไปแจ้งความเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้ให้เพื่อนอีกคนโทรไปหานายสันติ ถามว่าพี่สาวอยู่ที่ไหน เขาก็บอกว่า อยู่ในรถจนตำรวจตามไปเจอ ซึ่งหากดูจากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นเป็นภาพนายสันติจริง แต่ไม่เชื่อว่าเป็นคนทำ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น
นอกจากนี้ น.ส.ถิงถิง ยังกล่าวถึงเรื่องคลิปความยาว 16 นาทีที่นายสันติอัดเสียงตัวเองส่งให้ภรรยาว่า มีคลิปเสียงนั้นจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้ โดยมีบางช่วงนายสันติ พูดว่า “กลัว” และบางช่วงพูดถึงเรื่องเงิน เรื่องการทำธุรกิจบางอย่าง แต่พอมาฟัง 10 วินาทีสุดท้าย ยิ่งเชื่อว่า ต้องมีอะไรที่มากกว่านี้ และไม่น่าจะใช่นายสันติลงมือทำ
น.ส.ถิงถิง กล่าวอีกว่า พี่สาวทำธุรกิจหลายอย่าง ส่งข้าวกล่องให้คนงาน ขายผลไม้ไทย ขายลอตเตอรี่ ขายทอง และออกเงินกู้ให้แรงงานไทยด้วย ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น และหากว่านายสันติ เป็นคนฆ่าพี่สาวและพี่เขย ยิ่งมีความรู้สึกว่ายอมรับกับเรื่องที่เกิดไม่ได้
ขณะที่นายสุชาติ พ่อของนายสันติ ระบุว่า เรื่องคลิปนั้นไม่รู้จริงๆ ยังไม่เคยฟังว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับแม่ของ น.ส.พจนีย์ หรือ มี่ จึงได้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี หากกลับมาประเทศไทย พร้อมจะไปขอโทษด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาไม่กล้าติดต่อไป เพราะไม่รู้จะใช้คำไหนไปขอโทษเขา ขณะเดียวกัน ตอนนี้ก็อยากให้ลูกชายออกมามอบตัว และพูดความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังยืนยันว่า เชื่อว่าลูกชายไม่ใช่ผู้ก่อเหตุเพียงลำพัง
ขณะที่เพื่อนบ้านนายสันติ บอกว่า ลูกของเธอเป็นเพื่อนกับลูกนายสันติ ซึ่งมาเล่นด้วยกันเป็นประจำ เห็นเขากลับมาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา และไปส่งลูกช่วงเย็นวันที่ 9 ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งลูกชายนายสันติยังมาบอกเธอว่าดีใจที่พ่อกลับมาหาที่บ้าน เพราะไม่เจอพ่อมานานหลายปีแล้ว
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทนายสันติด้วยว่า เขารู้จักกับนายสันติ และ น.ส.พจนีย์มาตั้งแต่เด็กๆ ปกติแล้วนายสันติเป็นคนเงียบๆ ไม่มีพิษมีภัย ไม่น่าเชื่อว่านายสันติจะลงมือก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าช่วงก่อนที่นายสันติจะไปทำงานที่ไต้หวัน ได้เปิดบริษัททัวร์ เคยมีปัญหาเรื่องเงิน ยืมเงินเพื่อนติดหนี้หลายคน มีบางคนถูกชักชวนหลอกไปลงทุนและไม่ได้เงินคืน แต่ละคนหลักแสนบาท รวมถึงติดหนี้ น.ส.พจนีย์กว่า 1 ล้านบาท และเคยมีปัญหาทะเลาะกันด้วย ซึ่งยังแปลกใจว่านายสันติไปอยู่กับ น.ส.พจนีย์ที่ไต้หวันได้อย่างไร ส่วนปมก่อเหตุคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาหนี้สิน
วสันต์ ปัญญาเรือน รายงาน