วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี มีการรายงานจากสำนักอนามัย และสำนักการศึกษา พบผู้ป่วยจากการใช้กัญชาเกินขนาดจนเสียชีวิต (อ่านข่าว) โดยย้อนถามว่า กรณีดังกล่าวนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เหตุใดจึงมีการรายงานเพียงแค่เคสที่เกิดขึ้น เขาต้องการอะไร ขอให้ผู้สื่อข่าวประเมินและวิเคราะห์ พร้อมย้ำว่า อย่าเข้ามาก้าวก่าย หรือเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าเขาไม่หวังดีกับประชาชน และยืนยันว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองยึดประชาชนเป็นที่ตั้งทุกคน
เมื่อถามว่า หากตัดเรื่องการเมืองไป จะเตือนประชาชนในเรื่องการใช้กัญชาอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เราเตือนไปทุกรูปแบบแล้ว เป้าหมายคือต้องการให้ใช้ทางการแพทย์ ส่วนการเสพ การพี้ ปุ้น เพื่อสุขภาพหรือไม่ ย้ำว่าตนได้เตือนมาโดยตลอดว่า การสูบกัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ควร ในโรงเรียนถูกสูบบุหรี่ยังถูกตี ถ้าสูบกัญชาคงถูกไล่ออก อย่างไรก็ตาม สามารถหลีกเลี่ยงการสูบกัญชาได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ต่างกับการดื่มสุราหรือการสูบบุหรี่ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะขาดไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า การที่ให้ประชาชนคิดเองถือเป็นการผลักภาระหรือไม่ นายอนุทิน ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมระบุว่า “นี่เป็นการถามแบบหาเรื่อง เราบอกว่าใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ถ้าบอกว่าเราโยน มันเป็นการโยนเรื่องที่ดีให้กับประชาชน”
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวดังกล่าวนี้ เพื่อหวังผลอะไรนั้น เรื่องนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่ เรื่องเป็นประโยชน์ไม่พูด ไปพูดแต่เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ นี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง มันผ่านมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ไปดูตอนเสนอ พ.ร.บ. บัญชา มีทั้ง ส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาลตรวจสอบรายชื่อได้หมด 400 คน ดังนั้นเขาต้องเห็นว่าเรื่องนี้มีคุณประโยชน์
เมื่อถามถึงกรณี วุฒิสมาชิก หรือ สว. เสนอให้มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในช่วงสูญญากาศระหว่างรอกฎหมายกัญชา-กัญชงแล้วเสร็จ (อ่านข่าว) นายอนุทิน กล่าวว่า มีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว แต่เมื่อมีใครให้ข้อเสนอแนะมา เราก็พร้อมที่จะศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์ และดูว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร อย่างไรก็ตามจะต้องรอประกาศการห้ามสูบกัญชาในที่สาธารณะ หรือที่จะก่อให้เกิดความรำคาญต่อบุคคลอื่น ซึ่งกำลังจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษา
อย่างไรก็ตาม พ.ร.ก. ที่ทาง ส.ว. เสนอนั้น มองว่ามีความซ้ำซ้อน เพราะมีอยู่ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว และอีกไม่นาน พ.ร.บ. ที่สภา กำลังพิจารณาก็ใกล้จะแล้วสร็จ ซึ่งมีการตั้งไทม์ไลน์ไว้แล้วว่าจะให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ พร้อมกับย้ำ หากทุกคนใช้ด้วยเจตนารมย์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพสุขภาพ และด้านการแพทย์มันจะไม่เกิดปัญหาอะไรที่ต้องกังวล
แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะมีการใช้ในทางที่ผิด เช่นการเสพที่ไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาโรค หรือทำให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่เจตนารมย์ของการทำให้กัญชาเสรี นอกจากนี้เราพยายามทำความเข้าใจการใช้กัญชาอย่างถูกต้องในทางการแพทย์มากว่า 3 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาปล่อยให้เสรีโดยยังไม่ศึกษาอะไรเลย ซึ่งมีความตั้งใจเพื่อให้เกิดสุขภาพที่ดีแก่พี่น้องประชาชน เสริมสร้างรายได้ โดยไม่มีการเมืองอะไรทั้งสิ้น ทั้งนี้มีความพยายามมีการนำเรื่องนี้ไปบวกกับการเมือง และพยายามดิสเครดิตนโยบายของพรรคภูมิใจไทยต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน