svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ิ"บิ๊กตู่"รับรมว.กลาโหมสหรัฐฯย้ำจุดยืนสองชาติพร้อมหนุนและพัฒนา

13 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชื่นมื่น "นายกฯ"ต้อนรับรมว.กลาโหมสหรัฐฯ พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองความมั่นคงของภูมิภาค ขณะที่อเมริกาสนับสนุนพัฒนากองทัพไทยให้ทันสมัย ด้านโฆษก กห. ย้ำลงนามวิสัยทัศน์ร่วม ไทย-สหรัฐฯ 2020 แค่จุดยืนร่วมกัน ไม่ใช่สนธิสัญญา-ข้อผูกพันที่ต้องปฏิบัติ

13 มิถุนายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Lloyd J.Austin III (ลอยด์ เจ. ออสติน ที่สาม) รมว.กลาโหม สหรัฐอเมริกา และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม ระหว่างวันที่ 12 - 14 มิ.ย. 65 ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดยมีผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ร่วมต้อนรับ

 

ิ"บิ๊กตู่"รับรมว.กลาโหมสหรัฐฯย้ำจุดยืนสองชาติพร้อมหนุนและพัฒนา

 

โดยทั้งสองฝ่าย ได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทย - สหรัฐฯ ที่มีพัฒนาการแน่นแฟ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน และขอบคุณการสนับสนุนความร่วมมือทางทหาร พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันต่อสถานการณ์ความมั่นคงของภูมิภาค อาทิ ปัญหาทะเลจีนใต้ และเมียนมา ซึ่งไทยสนับสนุนการดำรงบทบาทที่สร้างสรรค์ และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และยืนยันในท่าทีของอาเซียน โดยที่ผ่านมาไทยได้ให้การช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบเมียนมาตามหลักมนุษยธรรมต่อเนื่องมา และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขัดแย้งที่ไม่พึงประสงค์ของภูมิภาค 

ขณะที่สหรัฐฯ พร้อมผลักดันการสนับสนุนพัฒนากองทัพไทยให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งการฝึก ศึกษา ยุทโธปกรณ์ และการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพร่วมกันด้านไซเบอร์และอวกาศ ซึ่งในปี 66 หลังผ่านความท้าทายของโควิด-19 จะได้มีความร่วมมือกัน จัดการฝึกร่วมผสมคอบบร้าโกล์ดเต็มรูปแบบ โดยจะมีการฝึกด้านไซเบอร์และอวกาศ เพื่อยืนยันและสะท้อนความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน 

 

ด้าน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มของ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ จัดเสวนาทางวิชาการและเดินทางมาแสดงเจตนารมณ์ยื่นหนังสือ เพราะกังวลต่อบทบาทของสหรัฐฯ ที่มีต่อไทย ที่ด้านหลังกระทรวงกลาโหม ว่า ขอขอบคุณนายจตุพร และกลุ่มผู้เสวนา ที่แสดงความห่วงใยต่อประเทศ และมีข้อสังเกตร่วมกันต่อปัญหาหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

 

ิ"บิ๊กตู่"รับรมว.กลาโหมสหรัฐฯย้ำจุดยืนสองชาติพร้อมหนุนและพัฒนา

 

"การมาแสดงเจตนารมณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และถือเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถทำได้ เป็นเรื่องดีที่สังคมตื่นตัว ตระหนักและมีส่วนร่วมงานด้านความมั่นคง และเรียนรู้ไปด้วยกัน กระทรวงกลาโหมพร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อสังเกตดังกล่าวด้วยใจจริง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินงานอย่างรอบคอบ" พล.อ.คงชีพ กล่าว

สำหรับการลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย-สหรัฐฯ ว่าด้วยการเป็นพันธมิตร ด้านการป้องกันประเทศ 2020 ที่ผ่านมา เป็นเพียงกรอบแนวคิดและจุดยืนที่มีร่วมกัน ไม่ได้เป็นสนธิสัญญา หรือมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด โดยเป็นการปรับปรุงจากแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม 2012 เดิมที่เคยมีอยู่

 

ิ"บิ๊กตู่"รับรมว.กลาโหมสหรัฐฯย้ำจุดยืนสองชาติพร้อมหนุนและพัฒนา

 

ทั้งนี้ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เน้นย้ำความยึดมั่นร่วมกันของไทยและสหรัฐฯ ในการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศที่มีร่วมกันมายาวนาน ภายใต้ 5 เสาหลัก ได้แก่ ความเป็นหุ้นส่วน การดำรงบทบาท ความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ยั่งยืน ความเป็นผู้นำ และกลไกความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อป้องปรามและตอบสนองความท้าทายร่วมกัน จึงขอให้เชื่อมั่นการทำหน้าที่ในภารกิจป้องกันประเทศของกลาโหม ที่ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ชาติและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก

logoline