ความคืบหน้าดคีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อม นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี บิดา และพวกรวม 10 คน นกรณีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ นางกนกวรรณ ได้ไปรายงานตัวต่ออัยการ เพื่อนำตัวไปยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คงเหลือนายสุนทร และพวกบางส่วน ที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ตลอดจนยังไม่ได้มีการไปรายงานตัวต่ออัยการแต่อย่างใด
และมีรายงานว่าคดีนี้ทาง ป.ป.ช. ได้ประสานมายัง ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. และกองปราบฯ ให้ติดตามจับกุม นายสุนทร และพวกที่หลบหนีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีจะขาดอายุความลงภายในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. นี้ (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.) มีรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ ตำรวจ ปปป. และกองปราบฯ รวมถึงตำรวจทางหลวง กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร และพวกที่ยังหลบหนี
โดยเป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่ บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางกนกวรรณ บุตรสาว, บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสำนักงานของนายสุนทร โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี , บ้านพัก 2 หลัง ของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่
ซึ่งเบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่า ไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน
รายงานว่า สำหรับบ้านพักของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เป้าหมาย ที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้าตรวจค้นในวันนี้ด้วยนั้น เป็นบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ สจ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งเคยมีส่วนเกี่ยวกับคดีอุกฉกรรจ์ในอดีตหลายคดี หลังแนวทางสืบสวนพบในอดีตทั้ง นายสุนทร และนายชัยเมศร์ เคยคบหาสนิทสนมกัน รวมถึงตัวของนายชัยเมศร์ก็ถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ รู้จักกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย
จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิดของ ส่วนใหญ่อ้างว่า ไม่ได้พบเห็นหรือติดต่อกับ นายสุนทร มานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะมีการออกหมายจับ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกับกระจายกำลังลงพื้นที่ ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิ.ย. หรือ วันพรุ่งนี้ต่อไปและหากคดีนายสุนทรหมดอายุความไปจริง ป.ป.ช. จะไปพิจารณาดำเนินการถอดถอน นายสุนทรออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต่อไป