รายงานสรุปยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด ณ วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565
ผู้ป่วยใหม่ จำนวน 3,185 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยในประเทศ 3,185 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ - ราย
ผู้ป่วยสะสม 2,253,617 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
----------
หายป่วยกลับบ้าน 3,326 ราย
หายป่วยสะสม 2,253,034 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 25,262 ราย
---------------------
เสียชีวิต 23 ราย
เสียชีวิตสะสม 8,564 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ
รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 678 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ(ตั้งแต่ปี 63) มีจำนวน 4,477,052 ราย ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 25,262 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสม(ตั้งแต่ปี 63) 4,421,528 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3,326 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม (ตั้งแต่ปี 63) 30,262 ราย
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย วันที่ 9 มิถุนายน 2565 จำนวน 23 ราย แยกเป็นชาย 13 ราย หญิง 10 ราย อายุระหว่าง 17 - 107 ปี เป็นกลุ่มผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง รวมกัน 96% แยกเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 20 ราย คิดเป็น 87% มีโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 9% ราย
ปัจจัยเสี่ยง-ประเด็นสำคัญ
ขอขอบคุณที่มา : ศูนย์ข้อมูล COVID-19
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 10.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 537,151,703 ราย
อาการรุนแรง 36,650 ราย
รักษาหายแล้ว 508,042,151 ราย
เสียชีวิต 6,326,550 ราย
5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 86,959,039 ราย
2. อินเดีย จำนวน 43,197,336 ราย
3. บราซิล จำนวน 31,315,777 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 29,713,219 ราย
5. เยอรมนี จำนวน 26,652,380 ราย
สำหรับ ประเทศไทย ติดอยู่ในอันดับที่ 25 จำนวน 4,477,052 ราย
เปิดรายชื่อ 10 จังหวัดติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในวันนี้
1.กรุงเทพมหานคร ยอด 1,302 ราย
2.นนทบุรี ยอด 401 ราย
3.อุบลราชธานี ยอด 282 ราย
4.สมุทรปราการ ยอด 114 ราย
5.กาฬสินธุ์ ยด 105 ราย
6.สระแก้ว ยอด 64 ราย
7.ปราจีนบุรี ยอด 49 ราย
8.บุรีรัมย์ ยอด 48 ราย
9.ร้อยเอ็ด ยอด 44 ราย
10.อำนาจเจริญ ยอด 40 ราย
ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ สปสช. ยกเลิกจ่าย “ค่าตรวจโควิด รพ.นอกระบบบัตรทอง” คงเหลือหน่วยบริการในระบบเท่านั้น
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอยกเลิกกรณีที่มีเหตุสมควรการเข้ารับบริการตรวจคัดกรอง บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอื่นที่เกี่ยวกับโรคโควิด–19 ในสถานบริการอื่น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่เริ่มผ่านพ้นช่วงวิกฤติแล้ว ประกอบกับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านการระบาดของโรคโควิด-19 สู่การเป็นโรคประจำถิ่น
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการจัดทำแผนและมาตรการการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น (Endemic Approach to COVID-19) เพื่อให้ประชาชนจะกลับมาดำเนินชีวิตภายใต้การใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่ ดังนั้นทางหน่วยงานที่บริหารจัดการกองทุนสุขภาพภาครัฐ ประกอบด้วย สปสช. กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองเศรษฐกิจสุขภาพฯ กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาแล้วเห็นว่าในระยะต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจคัดกรองเชิงรุก ทั้งประชาชนสามารถตรวจคัดกรองด้วย ATK ด้วยตนเอง หรือตรวจวิธีอื่นๆ ในหน่วยบริการได้ จึงมีมติร่วมกันให้การปรับเงื่อนไขอัตราจ่ายบริการโรคโควิด-19 ในภาพรวม โดยยกเลิกตรวจคัดกรองเชิงรุกนอกหน่วยบริการที่เป็นไปตามแผนและมาตรการการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่นของ สธ.ด้วยเหตุนี้ที่ประชุม บอร์ด สปสช. จึงมีมติให้ยกเลิกการเข้ารับบริการตรวจคัดกรองบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ การเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอื่นที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในสถานบริการนอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คงเหลือแต่ส่วนที่เป็นบริการของหน่วยบริการในระบบต่อไป โดยมติบอร์ด สปสช.นี้ ทาง สธ. จะรวบรวมเป็นข้อมูลการดำเนินการในส่วนของสาธารณสุข เพื่อนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 โลก Last updated: June 09, 2022, 00:45 GMT