นายกฯ-อนุทิน ปัด ยังไม่ได้รับรายงาน "รมช.ศึกษา" ถูกป.ป.ช.ชี้มูลบุกรุกป่า

9 มิถุนายน 2565 จากกรณีวานนี้ (8 มิ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคภูมิใจไทย กับพวก บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี

ล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถาม กรณีป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมพวกบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  ขณะนี้ได้รับรายงานแล้วหรือไม่ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ยังจ๊ะ ยังๆ ยังเลย"

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงในประเด็นเดียวกันว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก 2-3 วันที่ผ่านมามีเรื่องการพิจารณา พ.ร.บ.กัญชง-กัญชา พร้อมกับยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่ในฐานะคนรู้จักและลูกพรรคก็ได้ให้กำลังใจ ก็ให้นำหลักฐานไปแก้ต่างได้

ส่วนที่จะมีการยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรม เพื่อถอดถอนการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายอนุทิน ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและหลักฐานต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าตัวจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ ขั้นตอนมีอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ใครทำดีเราก็สนับสนุนแม้จะเป็นพวกกัน ก็มีความรู้สึกบ้าง แต่ก็ต้องให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นแนวทางเดียวกับคดีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายอนุทิน ย้ำคำเดิมว่า ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด เพราะเราไม่ได้ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร และนางกนกวรรณไม่เคยมาปรึกษาในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กับพวก กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุกตลอดชีวิต

ส่วนนายสุนทร และนางกนกวรรณ ถูกชี้มูลว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ฐานสนับสนุนการกระทำความผิด โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) แล้ว เพื่อให้พิจารณาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีดังกล่าวด้วย เนื่องจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยในส่วนของโทษฝ่าฝืนจริยธรรมนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะส่งศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนออกจากตำแหน่งด้วย

นอกจากนี้ ป.ป.ช.แจ้งรายงานด้วยว่า กรณีของ นางกนกวรรณ เมื่อส่งไปยังศาลฎีกาแล้ว หากศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีหรือไม่ คล้ายกับคดีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

โดยเมื่อต้นปี 2563 ชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภายใต้การอำนวยการของอธิบดีกรมป่าไม้ ได้รับแจ้งว่ามีการนำรถแบ็กโฮ 3 คัน เข้าไปขุดปรับพื้นที่บนเนินเขาและใช้รถดันต้นไม้ล้มเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี และจากการตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของโฉนดที่ดินมีชื่อของ นายสุนทรและนางกนกวรรณ เป็นผู้ครอบครอง จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เข้ายึดถือครองป่าเพื่อตนเอง และทำให้เสื่อมสภาพ ก่อนที่ต่อมาจะมีการส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ไต่สวนต่อ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง