จบเสียที พรุ่งนี้ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดีหวยอลเวง ครูปรีชา - หมวดจรูญ

เป็นมหากาพย์ยืดเยื้อมานาน สำหรับคดีหวยอลเวง 30 ล้าน ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ที่ยืดเยื้อกันมาตั้งแต่ปี 60 ท่ามกลางคำถามที่ว่า ใครคือเจ้าของหวยที่แท้จริงกันแน่

ในที่สุดคดีมหากาพย์นี้ก็จะถึงที่สิ้นสุดแล้ว โดยวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์หรือรับของโจรจากคดีหวยอลเวง ในเวลา 09.00 น. 

สำหรับคดีหวยอลเวงนี้ เกิดขึ้นในปี 60 หลังจากที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ เป็นผู้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ รวมเงินรางวัลจำนวน 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงินที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาจังหวัดกาญจนบุรี หักภาษีแล้วเหลือเงินเข้าบัญชี จำนวน 29,850,000 ล้านบาท

แต่ต่อมา หมวดจรูญ ถูก ครูปรีชา ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า เป็นเจ้าของสลากดังกล่าว ซึ่งการต่อสู้ในชั้นศาลใช้เวลานานหลายปี กระทั่งวันที่ 20 ต.ค. 63 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่มีคำพิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า "ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง" 

ทำให้ต่อมาวันที่ 25 ก.พ. 64 ครูปรีชา พร้อมด้วย นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฎีกาต่อสู้ในคดีหลักที่ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหาความผิดยักยอกทรัพย์สินหายหรือรับของโจร โดยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับรองฎีกาและอนุญาตให้โจทก์ฎีกาได้ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกา ส่งให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาตามรูปคดี และเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้ส่งหมายนัดให้ ครูปรีชา และหมวดจรูญ เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ 1863/2561 และคดีหมายเลขแดง ที่ อ 1416/2562 ในวันที่ 7 มิ.ย. 65 

ทั้งนี้ก่อนหน้า นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา ระบุว่า คดีนี้ต้องมาพิจารณาดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาท่านวินิจฉัยชี้ขาดเสียก่อน แล้วค่อยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกคดีแพ่งขึ้นพิจารณาต่อไป แต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า “ความจริงก็คือความจริง”