svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

06 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มคลั่งรื้อฝาบ้าน เครื่องนอน เสื้อผ้าออกมาเผา ขุดหลุมนำเอาถ่านลงไปฝังหลายจุดในบ้านเตรียมก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง พ่อแม่นอนที่บ้านไม่ได้มากว่า2 ปี ต้องตระเวนขอนอนบ้านญาติย้ายที่หลับนอนทุกวัน ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงต้องย้ายไปนอนที่นา เพราะกลัวอันตรายยามวิกาล

6 มิถุนายน 2565  นี่เป็นภาพที่เพื่อนบ้านบันทึกภาพวรีดีโอไว้ได้ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังนำเอาสิ่งของภายในบ้านของตนเองออกมาผาเผา ซึ่งเป็นไม้ฝาที่เป็นผนังบ้านบ้าง เสื้อผ้าบ้าง หรือแม้กระทั่งที่นอนของบพ่อแม่ ก็นำออกมาเผา กระทั่งผู้ใหญ่บ้านต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อมาดับไฟก่อนจะลามไปยังบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

 

           ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนางดาหวัน และนายมานพ สอนนำ อายุ 58 ปี ตั้งอยู่ที่ ม.3 บ้านหินตั้ง ต.ซับสมบูรณ์ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น  ซึ่งมีลูกคนเดียว เป็นผู้ชายชื่อนายวิสิทธิ์ สอนนำ อายุ 30 ปี และเป็นคนก่อเหตุ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.โคกโพธิ์ไชย ควบคุมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว  ผู้สื่อข่าวสำรวจบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูน ครึ่งไม้ ชั้นล่างประตูถูกงัดเหลือแต่โครง  ห้องนอนหลังบ้านก็ถูกรื้อประตูเช่นกัน  และห้องนอนที่ชั้นบนก็ถูกรื้อฝาบ้าน สิ่งของเครื่องใช้รื้อไปกองรวมกันไว้ที่ห้องโถงข้างห้องนอน

นางดาหวัน  สอนนำ อายุ 58 ปี แม่ของคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า มีลูกเพียงคนเดียวคือนายวิสิทธิ์ ในอดีตลูกชายเป็นคนดีมาก ไปรับจ้างทำงานที่ต่างจังหวัดและที่โรงงานในจังหวัดระยอง ส่งเงินมาให้พ่อแม่  พ่อแม่จึงสร้างบ้านไว้ให้  กระทั่งในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ลูกชายเปลี่ยนไป กลางวันนอนทั้งวัน แต่ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงตีสอง ลูกชายจะโวยวาย รื้อสิ่งของในบ้านมาเผา พ่อแม่ห้ามก็จะถูกทำร้าย พ่อแม่ไม่ได้นอนที่บ้านมาสองปีแล้ว  ต้องไปอาศัยหลับนอนที่บ้านญาติ จะมาที่บ้านก็ช่วงที่ลูกชายยังหลับอยู่  โดยในแต่ละวัน เมื่อลูกชายตื่นนอนก็จะขอเงินไปซื้อสุราและยาเสพติดมาเสพ โดยลูกจะพูดว่า เอาเงินมาให้กู  เมื่อได้เงินแล้วลูกจะบอกว่า พวกมึงจะไปตายที่ไหนก็ไป  ถ้าไม่ให้ลูกก็จะทำร้าย จนต้องขนเสื้อผ้าไปนอนบ้านญาติ

 

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

นางดาหวัน  กล่าวอีกว่า ช่วงสองปีนี้ลูกชายก่อเหตุรุนแรงขึ้นทุกวัน จนกลัวว่าจะฆ่าพ่อกับแม่  เพราะทุกครั้งที่ลูกชายอาละวาดจะทำร้ายพ่อแม่ตลอด  เมื่อสองวันที่ผ่านมาลูกชายทุบพื้นปูนที่เป็นพื้นบ้าน แล้วขุดเป็นหลุม เอาไม้และถ่านมาก่อไฟจนแดงฉานไปทั้งบ้าน โชคดีที่เพื่อนบ้านเห็นและช่วยกันดับไฟได้ทัน จึงไม่เกิดเพลิงไหม้ในบ้านพักอาศัย  ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขังได้ก็ขอให้ขังและส่งไปบำบัดรักษาจนกว่าจะหายขาด จึงปล่อยตัวออกมา

 

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

ขณะที่นายไพรัตน์ แทนสา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหินตั้ง  กล่าวว่า นายวิสิทธิ์  ติดยาบ้าอย่างหนักเป็นเวลาสองปีแล้ว  สร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่มาตลอด จากบ้านที่มีครบทุกอย่างก็หายไปกับกองเพลิงเดพราะลูกชายเมายาบ้า ดื่มสุราแล้ว กลายเป็นคนขาดสติ รื้อสิ่งของมาทำลายมาเผาจนวอดวาย  แม้ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันป้องกันแก้ไข  แต่เมื่อนำตัวไปบำบักรักษาออกมาก็เป็นเหมือนเดิม เพราะกลับไปเสพยาเสพติดอีก  เพื่อนบ้านได้แต่เห็นใจพ่อแม่ ที่มีบ้าน แต่อยู่บ้านไม่ได้ เนื่องจากกลัวลูกชายจะฆ่า ล่าสุดก็ขนสิ่งของและรื้อสิ่งของออกมาเผา จนต้องให้ตำรวจจับตัวไป

 

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

ทางด้าน พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย  กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า  หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปตรวจืที่เกิดเหตุและควบคุมตัวคนก่อเหตุเอาไว้ได้  ส่วนจุดเกิดเหตุนั้นอยู่สน่ามหญ้าข้างบ้าน ส่วนตัวบ้านไม่ได้รับความเสีย ซึ่งเจ้เหน้าที่ดับเพลิงได้สกัดไฟไม่ให้ลุกลาม จึงไม่เกิดความเสียหายกับตัวบ้าน  เมื่อควบคุมตัวถึงสภ.โคกโพธิ์ไชย  ก็ได้ตรวจปัสสาวะของนายวิสิทธิ์ สอนนำ อายุ 30 ปี  ผลตรวจเป็นสีม่วง และรับสารภาพว่าเสพยาเสพติดจริง จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสะพติดให้โทษประเภท  1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย  ซึ่งจะส่งตัวไปบำบัดรักษาตามขั้นตอนต่อไป  แต่ในกรณีการจุดไฟเผาสิ่งของจนลุกไหม้นั้น ไม่ได้เผาทรัพย์สินของผู้ใด กฏหมายจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้  แต่ตำรวจก็จะส่งฟ้องศาล เป็นการฟ้องใบแดง  ซึ่งก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา  เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ใช่การเผาทำลายทรัพย์สินของตนเองหรือของผู้อื่น จึงไม่สามารถแจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ได้

แม่แจ้งจับลูกคลั่งรื้อของเตรียมเผาบ้าน เพื่อนบ้านเอือมต้องย้ายหนี

 

ภาพ/ข่าว: พรพรรณ  เพ็ชรแสน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน

logoline