เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ 3 เมืองรวด ตาย 9 ศพ เจ็บหลายสิบราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจเปิดเผยว่า ในวันอาทิตย์ ( 5 มิ.ย.65) เหตุความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ ระลอก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บหลายสิบราย หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน เพิ่งเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันในเทกซัส นิวยอร์ก และโอคลาโฮมา

เหตุการณณ์แรกเกิดขึ้นในฟิลาเดลเฟีย เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างชาย 2 คน ลุกลามสู่การปะทะด้วยอาวุธปืน บนถนนเซาท์อันพลุกพล่านในรัฐเพนซิลเวเนีย พื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยผับบาร์และร้านอาหาร ไม่นานก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์ (4 มิ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แบ่งเป็นชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ โดยผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 ราย ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่สัญจรผ่านแถวนั้นพอดี

อีกเหตุการณ์คล้ายกันในเมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี เหตุยิงกันเกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนกำลังสนุกสนานยามค่ำคืนวันเสาร์ (4 มิ.ย.) ในตัวเมือง และเชื่อว่าเหตุความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเที่ยงคืนไม่นาน เบื้องต้นยังไม่มีผู้ต้องสงสัยรายใดถูกควบคุมตัวในเหตุยิงกันทั้ง 2 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจากบาดแผลกระสุนปืน 14 คน 

เจ้าหน้าที่รัฐเทนเนสซี เผยต่อว่าในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีหลายคนอาการยังคงสาหัส และมีอยู่ 3 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถยนต์ชนขณะกำลังพยายามวิ่งหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ

นอกจากนี้ ยังมีเหตุยิงกันเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) ในเมืองซากินอว์ รัฐมิชิแกน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 คน อย่างไรก็ตามในกรณีของเมืองซากินอว์ แตกต่างจากอีก 2 เหตุการณ์ที่เหยื่อเป็นผู้สัญจรผ่านไปมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เนื่องจากเหยื่อทั้ง 5 คนในมิชิแกน ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการยิงกัน

นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 จนถึงตอนนี้มีเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 240 เหตุการณ์ ตามข้อมูลของกัน ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์ (Gun Violence Archive) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยไม่แสวงหาผลกำไร ในขณะที่พวกเขาให้คำนิยามเหตุกราดยิง คือการยิงกันที่มีคนถูกยิงอย่างน้อย 4 รายขึ้นไป ไม่นับผู้ก่อเหตุ