พลิกวิกฤติสู้โควิดนำศิลาดลเสิร์ฟอย่างหรู“ข้าวซอย-ข้าวต้มมัด"

        เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เชียงใหม่ศิลาดลดอยสะเก็ด อำภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เดิมทีเป็นโรงงานผลิต   และจำหน่าย เครื่องเคลือบศิลาดลประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ของตกแต่งบ้าน ของขวัญและของที่ระลึก ส่งออกไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศ รวมทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือGI ของจังหวัดเชียงใหม่ และยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องเคลือบศิลาดล เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เยาวชน และประชาชนได้เข้ามาชมกระบวนการผลิตอย่างครบวงจร

        ล่าสุด ได้เปิดพื้นที่โรงงานที่มีภูมิทัศน์ธรรมชาติ และเรือนไม้สไตล์ล้านนา รองรับนักท่องเที่ยวเข้ามารับประทานอาหารล้านนา เช่น ข้าวซอย , ข้าวเงี้ยว และข้าวต้มใหม่ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวแห่งใหม่ ในด้านของอาหารล้านนา และวัฒนธรรมล้านนา  เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมาหลังจากประเทศไทยได้เปิดประเทศ ทั้งชาวต่างประเทศ และชาวไทย

        นางสาวทัศนีย์ ยะจา เจ้าของเชียงใหม่ศิลาดลดอยสะเก็ด กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ออเดอร์จากต่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาแรงงานฝีมือไว้ จึงมีแนวความคิดที่จะหารายได้เข้ามาให้สอดคล้องกับรายจ่าย นอกเหนือจาก การปรับแผนมาจะหน่ายเครื่องเคลือบศิลาดล ภายในประเทศมากขึ้น ยังได้ผลิตข้าวต้มมัดไฮโซออกมาจำหน่ายด้วย ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

        ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดง หรืองาขี้ม่อนจากโครงการหลวง ส่วนข้าว และกล้วย ก็จะซื้อจากชุมชนในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนรอบข้างมีรายได้ไปด้วยกัน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา มีลูกค้าทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ และทั่วประเทศ เข้ามาช่วยอุดหนุนซื้อข้าวต้มมัดกันเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันต้องทำการห่อข้าวต้มมัดด้วยใบตอง มากกว่า 200 มัด ในราคามัดละ 50 บาท

         "ในโรงงานมีการผลิตเครื่องเคลือบศิลาดลอยู่แล้ว และภายในโชว์รูมก็มีเครื่องเคลือบศิลาดลวางจำหน่ายหลากหลายชนิด ราคาหลักร้อยจนถึงหลักแสนบาท  น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักเครื่องเคลือบศิลาดลมากขึ้น จึงได้เลือกนำเอาจาน ชาม ถ้วยกาแฟ แก้วน้ำ ศิลาดล นำมาเป็นภาชนะเสิร์ฟข้าวต้มมัด , ข้าวซอยไก่ และน้ำตะไคร้ จำหน่ายเซตละ 150 บาท โดยจะเปิดขายเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์  ซึ่งลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แค่ได้มาทานขนมและอาหารบนจานชามศิลาดล ถือว่าคุ้มค่าและหรูหรามาก  "นางสาวทัศนีย์ กล่าว 

        อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19คลี่คลาย  และไทยได้เปิดประเทศแล้ว  จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ หลังจากที่พบว่า กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจที่จะเข้ามาชม และเลือกซื้อเครื่องเคลือบศิลาดล พร้อมรับประทานอาหารที่เสิร์ฟบนจานชามศิลาดลมากขึ้น จึงได้เตรียมเซทอาหารเพิ่มขึ้น เช่น อาหารพื้นเมือง, ออเดริฟเมือง, ข้าวต้มมัด, ข้าวซอย, ข้าวเงี้ยว, หมูปิ้ง หรือตามที่ลูกค้าสั่ง ในราคาตั้งแต่ 450-850บาท  เพื่อให้ลูกค้าได้มาสัมผัสคุณค่าของภาชนะแฮนด์เมด และเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร       

ข่าว/ภาพ : สกาวรัตน์ ศิริมา  สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคเหนือ