"กลุ่ม 16" รับเสียงแตก คว่ำงบฯปี 66 "ธรรมนัส" ลั่น ยังรัก "บิ๊กป้อม" เหมือนเดิม

2 มิถุนายน 2565 ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.พรรคเล็ก ในฐานะสมาชิกกลุ่ม 16 ร่วมหารือถึงแนวทางการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วานนี้(1 มิ.ย.) ถึงวาระรับหลักการ เนื่องจากขณะนี้หลายคนมีความเห็นต่าง จึงอยากให้ฟังการอภิปรายทั้งจากฝ่ายค้านและการชี้แจงของรัฐบาลให้จบก่อนตัดสินใจ ไม่ใช่จะตัดสินใจสนับสนุนรัฐบาลหรือฝ่ายค้านโดยยังไม่ฟังให้จบ

นายพิเชษฐ เปิดเผยว่า การพิจารณางบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาล จึงอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ ส.ส.อยากสมบูรณ์ เพื่อประชาชน เพราะอยากได้รับโอกาสจากประชาชนกลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง แต่ยอมรับว่าได้ไปขอโควตากรรมาธิการงบประมาณจากนายกรัฐมนตรีให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ในสัดส่วนของพรรคเล็กจริง

ด้าน นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย ก็ยอมรับว่ากลุ่ม 16 เสียงแตกและถ้าเสียงส่วนใหญ่เทไปทางฝ่ายค้าน ทุกอย่างจะพัง จะกลายเป็นเรื่องใหญ่  จึงเป็นห่วงสถานการณ์ เพราะจะเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ซึ่งเสียงของกลุ่ม 16 ถือว่ามีความสำคัญกับรัฐบาล จึงขอให้ทุกคนฟังการอภิปรายให้จบก่อนตัดสินใจ เพราะถ้างบประมาณไม่ผ่านนายกฯต้องลาออก และจะมีผลกระทบต่อประชาชน

จากนั้นตัวแทนพรรคเล็กได้ไปหารือกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และรักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากพรรคเล็กเสียงแตก จึงให้แนวทางว่า ขอให้รอฟังอภิปรายให้จบก่อนแล้วค่อยหารือแนวทางกันอีกครั้งเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

พร้อมย้ำว่าขณะนี้เสียงของกลุ่ม 16 และพรรคเศรษฐกิจไทยเสียงแตก เพราะมีคนให้ข่าวว่าจะรับหลักการไปล่วงหน้า ตนจึงให้แนวทางไปว่าจะทำอะไรต้องหารือกันก่อน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าจะรับหลักการหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูสาระสำคัญในการอภิปรายก่อน ถ้าหากเจอว่ามีประเด็นที่ทำให้ประเทศเสียหาย ก็ต้องหารือกัน แต่เท่าที่ฟังมา 2 วันนี้ยังไม่มีประเด็นใดที่ทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ซึ่งพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่ม 16 ได้มีการพูดคุยมากันมาโดยตลอด ว่าจะเดินไปด้วยกัน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกลุ่ม 16 บางคนก็จะย้ายมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่ากลุ่ม 16 เข้าพบนายกรัฐมนตรีและก็เข้าพบ ร้อยเอกธรรมนัส เป็นเรื่องผลประโยชน์หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันว่า เป็นการหารือเพื่อยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่วิ่งเต้นเพื่อเรียกรับผลประโยชน์

ส่วนโควตาของพรรคเศรษฐกิจไทยในชั้นคณะกรรมการงบประมาณ นั้น เมื่อปีที่แล้วพรรคพลังประชารัฐได้โควตาทั้งหมด 13 ที่นั่ง แต่ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐเหลือ10 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคเศรษฐกิจไทยจึงจะต้องได้ 3 ที่นั่ง

สำหรับการเลือกตั้งที่จะเปิดขึ้นใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างที่จังหวัดลำปาง พรรคเศรษฐกิจไทยจะส่งคนเดิม คือ นายวัฒนา สิทธิวัง

“ความสัมพันธ์ระว่างตนเองและรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น ตนไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ยังรักและเคารพเหมือนเดิม ส่วนเรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว