25 พฤษภาคม 2565 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อ้อยและน้ำตาล ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นกรรมาธิการ แต่เรื่องนี้มีความสำคัญ โดยเฉพาะประสบการณ์ส่วนตัวของเมื่อปี 2542 ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มีนักบัญชีมือหนึ่งของโลก คือ นายไมเคิล วันสเลย์ ได้ไปตรวจโรงงานน้ำตาล และถูกสังหารเสียชีวิตเป็นข่าวใหญ่โต
"ผมจึงอยากจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนความเห็นของกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่ให้เพิ่มมาตรา 2/1 เรื่องผลพลอยได้จากอ้อย เนื่องจากใน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล พ.ศ.2527 เรามีเรื่องผลพลอยได้อยู่แล้ว แต่บอกว่าเป็นกากน้ำตาล โดยเราต้องการจะให้เพิ่มกากอ้อยเข้าไป เพราะสามารถช่วยชุมชนได้ วันนี้โรงงานน้ำตาลอาจจะมีคนที่เป็นนักลงทุน นักอุตสาหกรรม แต่มีไม่ถึง 60 โรงงาน ขณะที่ประชาชนที่เป็นเกษตรกร และเกี่ยวข้องกับการปลูกอ้อย ไร่อ้อย มีทั่วประเทศมากกว่า 11 ล้านไร่ และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือสิ่งที่เราไม่ได้พูด ผมอยากจะมาเติมก็คือ เกษตรกรที่อยู่ใกล้โรงงานน้ำตาล เขาต้องได้รับมลพิษ ได้รับผบกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากกากอ้อย แต่กากอ้อยนำไปส่งโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ หรือไปทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรมก็ดี" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
”
ทั้งนี้ เรื่องกากอ้อยน่าจะเป็นสิทธิของชุมชน ควรกำหนดได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่ามีคนรวยกลุ่มหนึ่ง และรับผลพลอยได้ทุกอย่าง ส่วนตัวอยากเห็นเรื่องเศรษฐกิจชุมชน แต่กลับเห็นคนที่อยู่ในชนบทเป็นคนไร้ค่า ยังมองเป็นเรื่องเศรษฐกิจมหภาคเกินไป จึงอยากให้กลับไปทบทวน โดยบริษัทที่เป็นโรงงานอ้อยในตลาดหลักทรัพย์ร่ำรวยอันดับต้นๆ เท่านั้น แต่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม ตนจึงอยากให้มีข้อความตามที่กมธ.เสียงข้างน้อย คือ ให้เติมผลพลอยได้ที่มี "กากอ้อย" เข้าไป จะเป็นเรื่องที่ทำให้กฎหมายฉบับนี้มีความยุติธรรม แล้วจะได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจจะมีอยู่ประมาณ 3-4 แสนครัวเรือน ก็เป็นหลายล้านคน แทนที่จะช่วยคนรวยหรือนายทุนที่อยู่ใกล้ๆ กับรัฐบาล เพียงไม่ถึง 60 คน เรื่องนี้จึงมีความสำคัญ
"ผมขอวิงวอน สภาเราเป็นสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เป็นสภาของรัฐบาล เรื่องนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า จิตใจของคนเป็นรัฐบาลแคบไป มองเห็นประชาชนไม่มีค่า ผมจึงสนับสนุนกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่ให้มีผลพลอยได้ ให้เติมกากน้ำตาลให้เป็นกากอ้อยเพิ่มไปด้วย" เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ