ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ต้องขอแสดงความยินดีกับ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนที่ 17 ที่ได้คะแนนจากใจคนกรุงเทพฯ ไปอย่างถล่มทลาย สำหรับผู้ชายที่ชื่อ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ ในหมายเลข 8 ที่ชนะศึกเลือกตั้งในครั้งนี้
โดย ชัชชาติ ได้เผยสิ่งที่แรกที่จะทำให้ชาวกทม.ที่ทั้งเลือกและไม่เลือกตน โดยยืนยันว่า จะเริ่มทำนโยบายทั้งหมดกว่า 214 นโยบาย พร้อมที่จะเริ่มเดินหน้าและทำทั้งหมดในทันที
ส่วนในประเด็น ที่ต้องไปร่วมงานกับ รัฐบาล เพราะผู้ว่าฯ กทม. จะต้องทำงานร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย โดยตนเองนั้นขอรอคะแนนทั้งหมดจากประชาชน เพราะเป็นเสียงสำคัญในการต่อรองการทำงาน เพราะคะแนนที่ตนจะได้นั้นมากกว่านายกรัฐมนตรี และเป็นเสียงสำคัญที่จะทำให้ตนนั้นทำงานราบรื่นสำหรับเสียงของประชาชน
ส่วนในเรื่องของการเมืองความขัดแย้งนั้น อยากจะวอนให้ประชาชนทุกคนนั้นคิดต่างกันได้ สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้แต่อย่าเกลียดกัน ต้องหาทางออกร่วมกัน
อีกประเด็นที่น่าสนใจ หลายคนคงจะทราบว่า คุณชัชชาติ นั้นมีพี่ชายฝาแฝด คือ รศ.นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แต่เชื่อไหมว่ามีน้อยคนนักจะรู้ว่าชัชชาตินั้นมี “พี่สาว” ผู้ที่เป็นดั่งแรงบันดาลใจสำคัญๆ ในหลายๆ เรื่องด้วยนั้น คือ รศ.ดร. ปรีชญา สิทธิพันธุ์ หรือ "คุณหนึ่ง" อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ขอนำคอข่าวที่รัก ย้อนไปที่วันวาน เพื่ออ่านโพสต์ดีๆ สุดประทับใจ โดยว่าที่ผู้ว่าฯกทม. “คุณชัชชาติ” เคยโพสต์อวยพรวันเกิดของพี่สาวสุดที่รักเอาไว้เมื่อประมาณปี 2564 ใจความระบุไว้ว่า
..
"วันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของพี่สาวคนเดียวของผม พี่หนึ่ง ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ ครอบครัวเรามีพี่น้องสามคน หนึ่ง-ทัวร์-ทริพ พี่หนึ่งอายุมากกว่าน้องแฝด 7 ปี ช่วยเลี้ยงน้องสองคนมาตั้งแต่เล็กๆและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ให้ผมตั้งใจเรียน เพื่อไปเรียนต่อที่ MIT ให้ได้ตามพี่หนึ่ง ที่ไปเรียนก่อน พี่หนึ่งรับราชการเป็นเวลา 35 ปี หลังจากเกษียณจากงานบริหารหลักสูตรนานาชาติ ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬา ตอนนี้มาตั้งใจทำร้านอาหารเล็กๆชื่อ Curator อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 24 เป็นอาหารฝรั่งง่ายๆ แนว Comfort Food อร่อย คุณภาพดี สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่หนึ่ง ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ขอให้ร้านขายดีๆ นะครับ"
อีกหนึ่งความประทับใจที่ผู้ชายคนนี้มีต่อพี่สาวสุดที่รัก อ่านแล้วอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ฉายา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” หนึ่งในนักการเมืองที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นและชาวเน็ตมียอดฟอล ด้วยความคิดที่เฉียบคมและความสามารถที่น่าทึ่งของเขานั้น ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบและชื่นชม
อาจจะมีหลาย ๆ ไม่ทราบว่า เขามีพี่น้องฝาแฝดที่หน้าตาและลักษณะท่าทางเหมือนกันมาก แต่ในด้านความสามารถและความเห็นทางการเมืองนั้น ทั้งคู่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
วันนี้ ทีมข่าวเนชั่นอออนไลน์ ขอย้อนเรื่องราวดีๆ ที่เกี่ยวกับพวกเขาทั้งคู่มาให้อ่านกันตรงนี้...อีกสักครั้ง เพื่อให้คอข่าว ให้ทราบถึงประวัติพ่อเมืองกรุงเทพคนใหม่อีกสักรอบ พร้อมกับสัมผัสถึงเรื่องราวสุดประทับใจของ “ฉันชาย-ชัชชาติ” ฝาแฝด-คู่แฝดที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
เปิดตัวฝาแฝดต่างอุดมการณ์ “ฉันชาย สิทธิพันธุ์”
รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีแฝดพี่ชื่อ “ฉันชาย สิทธิพันธุ์” ถึงแม้พวกเขาจะมีลักษณะหน้าตาที่เหมือนกัน แต่ในด้านความคิดก็มีเรื่องที่แตกต่างกันบ้าง เช่น เรื่องการเมือง แต่ทั้งสองก็ยังคงเป็นพี่น้องที่ห่วงใยกันและไม่เคยก้าวก่ายความคิดของใครที่เห็นต่าง
1. ฉันชาย-ชัชชาติ ลูกชาย พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2509 เป็นวันที่ฝาแฝดชาย "ตระกูลสิทธิพันธุ์" ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เขาทั้งสองเป็นลูกชายของ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กับคุณแม่จิตต์จรุง สิทธิพันธุ์ ปัจจุบันชัชชาติและฉันชายอายุย่าง 56 ปี
ชัชชาติ เป็นแฝดน้องมีชื่อเล่นว่า “ทริป” ส่วนแฝดผู้พี่นามฉันชาย มีชื่อเล่นว่า “ทัวร์” พวกเขายังมีพี่สาวอีก 1 คน คือ ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. ในวัยเด็กรักการอ่าน/นั่งหันหลังชนกัน อ่านหนังสือวันละ 2 ชั่วโมง
เนื่องจากคุณแม่เป็นคนที่เข้มเรื่องระเบียบวินัย เลี้ยงลูกแบบสมัยเดิม ๆ ต้องแบ่งเวลาเป๊ะ ๆ เรื่องการบ้านจะติวเข้มมาก คือลูก ๆ ต้องมีตารางเวลาที่ชัดเจนในการทำสิ่งต่าง ๆ หลังเลิกเรียนของเด็กชายชัชชาติและ เด็กชายฉันชาย จะนั่งหันหลังชนกันแล้วอ่านหนังสือสองชั่วโมง มีเบรกเล่นกีฬา ดูทีวีบ้าง
ด้วยความถูกปลูกฝังแบบนั้นมา ทำให้พวกเขาก็รู้สึกสนุกกับการอ่านหนังสือ ถึงขั้นไปเอาหนังสือของมหาลัยมาอ่านกัน (ในตอนนั้นยังเรียนอยู่มัธยม) เห็นอ่านหนังสือกันทุกวันแต่แฝดทั้งสอง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเด็กเนิร์ดอะไรขนาดนั้น เพราะสมัยเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในด้านการทำกิจกรรมพวกเขาต่างก็ผลัดกันเป็นประธานสีคนละปี พอถึงช่วงสอบเอนทรานซ์ เนื่องจากที่บ้านห้ามเรียนซ้ำกัน ฝาแฝดสองพี่น้องก็ตกลงกันว่าใครจะเลือกเรียนอะไร และผลเรียนต่างก็ออกมาดีเยี่ยมทั้งคู่ด้วย
3. ฉันชาย-เลือกเรียนสายแพทย์ มีความสุขกับการสอนหนังสือ และการดูแลคนไข้
“ฉันชาย” สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้าปริญญาโท และเอกด้านโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตทางระบบหายใจ จากสหรัฐอเมริกา มีความเชี่ยวชาญด้านอายุกรรมโรคปอด ระบบทางเดินหายใจและทรวงอก ปัจจุบันเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยทุกวันนี้เขามีความสุขกับการสอนหนังสือ และการดูแลคนไข้
4. ชัชชาติ-เลือกเรียนสายวิศวะ-รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมติดดิน-ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
ตอนแรกก็อยากเรียนหมอเหมือนพี่ชาย แต่เพราะไม่ชอบเลือดและไม่ชอบเรียนวิชาชีววิทยา เลยไปเรียนวิศวะแทนและจบการศึกษาจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 มาครอบครอง ต่อมาได้รับทุนอานันทมหิดลในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโครงสร้างจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์
หลังจากจบออกมา เคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเคยเป็นอดีตผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ของจุฬาฯ ดูการก่อสร้างดูแลมาบุญครอง และสยามสแควร์ ประมาณ 7 ปี และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ
เขามีภาพลักษณ์เป็นรัฐมนตรีติดดิน ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เขาชอบ ซ้อนจักรยานยนต์รับจ้าง โหนรถเมล์ นั่งรถสองแถว โดยสารรถไฟ ออกตรวจตราราชการในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการลงพื้นที่เพื่อตรวจปัญหาด้วยตนเอง หลายครั้งที่เขาไปตรวจงานตามองค์กรของรัฐโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าด้วย
นอกจากนี้ ชัชชาติ ยังเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่เป็นเน็ตไอดอล ขวัญใจของคนรุ่นใหม่ โดยเริ่มจากภาพที่ นายชัชชาติได้เดินเท้าเปล่า ถือถุงกับข้าวไปตักบาตร ที่ จ. สุรินทร์ ชาวเน็ตจึงได้ตั้งฉายาให้เขาว่า รมว. กระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จากนั้นมา ก็เกิดเป็นกระแสบนโซเชียลมีการทำภาพแต่งกายคอสเพลย์ตามกันมากมาย กระแสแรงฟีเวอร์มาก ๆ ถึงขั้นมีสติกเกอร์ไลน์และเกมเป็นรูปเขาเลยทีเดียว เรียกว่าปังมาก
5. พี่น้องคู่แฝดที่อาชีพต่างกันคนละขั้ว
พี่น้องตระกูลสิทธิพันธุ์ ทั้ง 3 คน พี่สาว และน้องชายฝาแฝด ต่างประกอบอาชีพกันคนละทิศละทาง โดยพี่สาวคนโต คือ "คุณหนึ่ง" หรือ รศ.ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ เป็นอาจารย์ที่คณะสถาปัตย์ "คุณฉันชาย" เป็นอาจารย์หมอที่คณะแพทยศาสตร์ และ คุณชัชชาติเคยเป็นรองศาสตราจารย์ที่คณะวิศวะ และเคยเป็นถึงผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาฯ มาแล้ว ถึงแม้สาขาอาชีพจะต่างกัน แต่ทุกคนต่างก็เคยเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ เหมือนกัน ล่าสุด พร้อมรับบทบาทพ่อเมืองกรุงเทพคนใหม่ คนที่ 17 แบบมาแรงทิ้งคู่แข่งห่างลิบลับ
6. บ้านใกล้กันแต่ไม่ค่อยได้คุย / ชัชชาติชอบส่งเมสเสจชวนพี่ไปวิ่ง
ด้วยภาระหน้าที่ในการทำงานที่ต่างกัน ถึงแม้บ้านของแฝดทั้งสองจะอยู่บริเวณใกล้ ๆ กัน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันมากเท่าไร แต่ก็จะมีช่วงเช้าที่ชัชชาติส่งเมสเสจไปหาแฝดผู้พี่ฉันชายชวนออกไปวิ่งด้วยกันบ้าง โดยพวกเขาจะตื่นพร้อม ๆ กัน ไม่เกินตี 4 และสิ่งที่ทำประจำคือการออกกำลังกาย เพราะตอนเด็ก ๆ เคยอ้วนกันมาทั้งคู่ เลยถูกปลูกฝังให้ออกกำลังกายมาตั้งแต่ตอนนั้น
ทำให้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากรักการอ่าน พวกเขาก็ยังรักการวิ่ง จะมีช่วงหลัง ๆ ที่แฝดผู้พี่ฉันชายไม่ค่อยออกไปวิ่งข้างนอกบ้าน เพราะคนชอบเข้ามาทักผิดว่าเป็นชัชชาติ ส่วนชัชชาตินอกจากวิ่งก็จะเพิ่มการออกกำลังกายแบบจักรยานเข้ามาด้วย
7. ฝาแฝดที่มีความเห็นต่างเรื่องการเมือง
ครั้งหนึ่งเคยมีข่าว ฉันชาย-พี่ชายของชัชชาติ เคยออกไปชุมนุม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในตอนนั้น ชัชชาติ ถึงกับต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เพราะจะได้ไม่มีคนเข้าใจผิดว่า… “ถ้าเห็นคนที่หน้าคล้ายเขาไปร่วมชุมนุม ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นไม่ใช่ตนเองอย่างแน่นอน แต่เป็นแฝดผู้พี่ อย่างนี้จะเรียกว่าแฝดคนละฝา หรือแฝดคนละฝั่งดีเนี่ย !? ”
เคยทีกระแสข่าว สะพัดกันว่า ครอบครัวของชัชชาติเอง ก็ไม่ชอบพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะคุณแม่ ที่จะเชียร์พรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด เคยมีการคัดค้านการเข้ารับตำแหน่ง รมว.กระทรวงคมนาคมของชัชชาติก่อนหน้านี้ แต่โดยปกติแล้วเรื่องการเมือง ที่บ้านนี้จะคุยกันน้อยมาก ถึงแม้ทุกคนจะเห็นต่างแต่ก็ไม่ก้าวก่ายความคิดของกันและกัน หรือใครๆ ก็ตามแต่
..
ครั้งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวเคยสัมภาษณ์ เรื่องการเมือง อยู่คนละขั้วเรื่องการเมืองมั้ย?
คุณฉันชาย ตอบกับผู้สื่อข่าวว่า
“คนเราอาจจะมีความชอบ หรือความเห็นบางเรื่องไม่ตรงกันอยู่แล้ว ถึงที่สุดแล้วมันก็ต้องแยกหน้าที่ แยกบทบาทกันให้ดี ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีใครหรอกครับ..เป็นขาวหรือดำ”
..
นี่เป็นเพียงเรื่องราวบางส่วนที่น่ารักและที่ประทับใจของชาวเน็ต เมื่อได้สัมผัสมุมอบอุ่นจาก ผู้ชายที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็น ผู้ว่าฯ กทม.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ที่หลายคนที่รู้แล้ว ได้อ่านแล้ว ต่างต้องอมยิ้มตามในความรักใคร่อันดีของ "ครอบครัวสิทธิพันธุ์"
ล่าสุด มีกระแสข่าวเล่าให้ฟังต่อๆกันมาว่า แม้ในตอนลงพื้นที่หาเสียง แฝดผู้พี่-นายแพทย์ฉันชาย และพี่สาวสุดที่รัก "พี่หนึ่ง" ดร.ปรีชญา ก็ยังลงพื้นที่ มาช่วยน้องชายของตนเองและที่สำคัญนี่คือแรงใจ กำลังใจที่สำคัญที่สุด กำลังใจที่มาจากคนในครอบครัว ที่พร้อมผลักดันให้ในวันนี้ "ชัชชาติ" คว้าชัยชนะมาได้ และพร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้ว่าฯกทม.คนที่ 17 รับหน้าที่บริหารกรุงเทพฯ ที่ทุกคนรักต่อไป อีก 4 ปี นับจากนี้!!