
1.อนาคตของ "บ้านใหญ่ คุณปลื้ม" ที่ส่ง "ตัวแทน" ลงสู้ศึกครั้งนี้ ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า "บ้านใหญ่" ในฐานะ "กลุ่ม หรือ พรรคพลังชล" จะเดินหน้าทางการเมืองอย่างไรต่อ
-อยู่ พปชร.ต่อไป
-กลับมาสร้างพรรคตัวใหม่อีกรอบ
-กลับบ้าน "ศิลปอาชา" กับชาติไทยพัฒนา
2.อนาคตของ "คณะก้าวหน้า" กับพลพรรคของ “ธร-บุตร-ช่อ” คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ พรรณิการ์ วานิช เพราะคณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครลุยสนามนี้ ทั้งนายกและสมาชิกสภาเมือง หรือ ส.ม. และหวังไว้มากเหมือนกัน แถมออกตัวแรงอีกด้วย
3.เป็นการเลือกตั้งครั้งแรก หลังจากห่างหายไป 10 ปี ผลการเลือกตั้งจึงสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดได้ว่า...
-ความตื่นตัวทางการเมืองของคนพัทยาเป็นอย่างไร
-โครงสร้างคะแนน และทิศทางการเลือกตั้งยังเหมือนเดิมหรือไม่ (วนอยู่ในกลุ่มบ้านใหญ่)
-เทียบกับการเลือกตั้งทั่วไปปี 62 มีความแตกต่างหรือคล้ายคลึงกันอย่างไร
ขอไปทบทวนกันก่อน สำหรับ 4 ผู้สมัคร มีใครบ้าง
หมายเลข 1 ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ กลุ่มเรารักพัทยา
-ตัวแทน "บ้านใหญ่" เพราะเป็นลูกชายของ สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี หลายสมัย สายกำนันเป๊าะ (สมชาย คุณปลื้ม)
-เคยเป็น ส.ส.ชลบุรี เมื่อปี 54 ในสีเสื้อพรรคพลังขล (พรรคของตระกูลคุณปลื้ม นำโดย สนธยา คุณปลื้ม)
-แพ้เลือกตั้งปี 62 ให้กับ ส.ส.อนาคตใหม่ (กวินนาถ ตาคีย์) แต่ก็ยังมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.คือ อิทธิพล คุณปลื้ม)
-ศึกครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันของบ้านใหญ่ และแก้มือจากการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 62
หมายเลข 2 ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้สมัครอิสระ
-เป็นอดีตนายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี (อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองพัทยา)
-ลงสมัครเดี่ยวๆ ไม่มีทีม
-ฐานคะแนนในเมืองพัทยาไม่มีเป็นกอบเป็นกำ
-ลงสมัครเพื่อสร้างโปรไฟล์สำหรับลุยเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต หากมีพรรคการเมืงอสนใจ
หมายเลข 3 กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย จากคณะก้าวหน้า
-เดิมถูกวางตัวลงสมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา แต่ผู้สมัครตัวจริงที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า วางเอาไว้ขาดคุณสมบัติ (ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งก่อนหน้า) ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวกะทันหัน เรียกว่า "ส้มหล่น" ก็พอได้
-สังกัดคณะก้าวหน้า ได้ฐานเสียงเดิมจากอนาคตใหม่ และก้าวไกลในปัจจุบัน
-หวังคะแนนคนรุ่นใหม่ นิวโหวตเตอร์ และสร้างกระแสการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการตรวจสอบเรื่องการบริหารและการใช้จ่ายงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาทในยุคที่ผ่านมา มีการผุดโครงการต่างๆ มากมาย แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้งาน และไม่สนองตอบความต้องการของคนพัทยาจริงๆ
-ประกาศ "ทวงพัทยา คืนมาเป็นของทุกคน"
หมายเลข 4 สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร จากกลุ่มพัทยาร่วมใจ
-น้องชายของ นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่มาจากการเลือกตั้งคนแรก
-แยกตัวจาก "บ้านใหญ่" จึงน่าจะมีฐานเสียงทับซ้อนกัน
การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ประเมินแนวโม้มการเลือกตั้งได้แบบนี้
-ความสนใจของคนพัทยาพุ่งไปที่ หมายเลข 1 กับ หมายเลข 4 คือ ปรเมศวร์ กับ สินธ์ไชย ว่าใครจะเป็นนายกเมืองพัทยาคนต่อไป
-ปรเมศวร์ ตัวแทนบ้านใหญ่ ภาษีดีกว่า เพราะยึดครองการบริหารเมืองพัทยามาตลอด มีฐานเสียงและหัวคะแนนชัดเจน แต่ปัญหาคือระยะหลังผลงานไม่ค่อยเข้าเป้า ในพัทยาก็มีปัญหามาก โดยเฉพาะน้ำท่วม และขุดถนนไม่จบสิ้น ทำให้ประชาชนไม่ค่อยพอใจ บางคนถึงกับวิจารณ์ว่า คะแนนนิยมเริ่มเสื่อมหรือไม่?
-สินธ์ไชย มาแรง ใช้วิธีเจาะฐานเสียงโดยตรงไปที่ประชาชนกลุ่มต่างๆ พร้อมใช้โซเซียลเข้ามาช่วย ทำให้ฐานคะแนนกว้างกว่า
-สินธ์ไชย กับ ปรเมศวร์ อาจตัดคะแนนกันเอง จนเปิดทางให้ กิตติศักดิ์ จากคณะก้าวหน้า มีหวัง
-จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา มีทั้งหมด 83,183 คน การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ราวๆ 50% กว่าๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคะแนนจัดตั้งของกลุ่มการเมือง หรือผู้สมัครเอง
-ตัวตัดสินจึงกลายเป็น "นิวโหวตเตอร์" และคนที่ไม่ได้ออกมาเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ครั้งนี้อาจจะตัดสินใจออกมา
- เลือกตั้ง ส.ส.ปี 62 พรรคอนาคตใหม่ชนะเขต 7 ซึ่งผนวกพื้นที่เมืองพัทยาเข้าไปด้วย ได้คะแนน 31,247 คะแนน จึงน่าจะมีฐานเสียงเดิมอยู่หลักหมื่นถึง 20,000 คะแนน
***ถ้าปรเมศวร์ กับ สินธ์ไชย ทุ่มเทแย่งฐานคะแนนจากคนกลุ่มเดียวกัน และหากวันเลือกตั้งผู้ออกมาใช้สิทธิ์มาก อาจทำให้คณะก้าวหน้ามีลุ้นได้เช่นกัน
สอดคล้องกับแนววิเคราะห์ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่บอกว่า ตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้งไม่ใช่ "นิวโหวตเตอร์" เพราะมีจำนวนไม่มากนัก (หลักพัน จาก 8 หมื่นกว่า) แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ ถ้าออกมามาก ผู้สมัครของคณะก้าวหน้าก็จะยิ่งมีโอกาสมาก
ความหวังของคณะก้าวหน้า แม้จะไม่ได้ตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ก็ขอให้เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาเข้าไปมากๆ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน