ศรชล.สตูล ยึด“ตุ๊กแกตากแห้ง”หนัก 700 กก. ลอบนำเข้าจากอินโดฯ

วานนี้ (17 พ.ค.) น.อ.ธนฤกษ์ วรชาตินักรบ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 รองผอ.ศรชล.สตูล รับแจ้งว่ามีเรือขนถ่ายสินค้าจากประเทศอินโดนีเซียลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี เข้ามาส่งในเขตชายแดนทางทะเลระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย โดยมีเรือสปีดโบ๊ทจากฝั่งไทยออกไปรับและขนถ่ายสินค้าบริเวณแนวเขตชายแดนทางทะเล และมุ่งหน้าเข้าทางเกาะตะรุเตาโดยมีปลายทางที่ท่าเรือปากบาราหรือท่าเรือบากันโต๊ะทิด

หลังได้รับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชปพ.นสร.กร. จ.สตูล นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ต่อมาพบเรือเป้าหมายเข้าจอดเทียบท่าที่บริเวณบ้านบากันโต๊ะทิด และขนถ่ายสินค้าขึ้นรถกระบะตู้ทึบสีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฮ 6375 กรุงเทพมหานคร โดยรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปยัง อ.ทุ่งหว้า เวลา 22.00 น.ของวันที่ 16 พ.ค. 2565 จึงได้ประสานกำลังจากฉก.ร.5 กองกำลังเทพสตรี ที่ตั้งจุดสกัดอยู่ที่บริเวณด่านคีรีวง อ.ทุ่งหว้า จนสามารถจับกุมรถคันดังกล่าว

นอกจากนี้ พบว่าภายในตู้บรรทุกสินค้าเป็นกล่องกระดาษหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีขาว สอบถามนายปิติศักดิ์ แสงเขียว หรือออฟ อายุ 43 ปี อยู่เลขที่ 89/289 ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งเป็นคนขับรถยอมรับว่าเป็นซากตุ๊กแกตากแห้ง รวมทั้งหมด 53 ลัง น้ำหนักประมาณ 717ก.ก. โดยมีปลายทางที่กทม. 

โดยนายปิติศักดิ์ บอกว่าเป็นคนขับรถขนส่งสินค้าทั่วไป โดยขนส่งรายทางจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จ.ตรัง และ อ.ละงู จ.สตูล เมื่อทยอยส่งสินค้าเสร็จก็รองานเพื่อขนสินค้ากลับขึ้นกทม. จนได้รับการติดต่อผ่านทางไลน์เพื่อจ้างขนสินค้าดังกล่าว ได้ค่าจ้างจำนวน 7,000 บาท สำหรับซากตุ๊กแกหรือตุ๊กแกตากแห้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ทำเพราะไม่ทราบว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา กระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ2562 มาตรา 17 ฐานร่วมกันมีไว้ในความครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออกโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันนำเข้าซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันนำสิ่งของต้องจำกัดเข้ามาโดยไม่ผ่านพีธีการศุลกากร นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งด่านศุลกากรสตูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

สำหรับตุ๊กแกนั้นนิยมนำไปตุ๋นเป็นเมนูอาหาร และส่วนผสมของยาหลายชนิด เชื้อว่าสามารถรักษาโรคมะเร็ง และเป็นยาโด๊ปที่กำลังมีราคาแพงและเป้นที่ต้องการของตลาดในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

ภาพ/ข่าว : ชิดชนก พุดทอง สำนักข่าวเนชั่น จ.สตูล