"อัจฉริยะ" ปัดส่งจดหมายถึง "อัยการดาว" ยันพิสูจน์คดี "แตงโม" ไม่เสียเปล่า

เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยภายหลังนายเฉลิมพล หงษ์ยนต์ ประธานสมาคมกู้ภัยทางน้ำกาญจนบุรี ภาค 7 พร้อมทีมนักประดาน้ำ ลงดำน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเก็บข้อมูล 3 จุด ที่เกี่ยวข้องกับคดีการตายอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง

โดยทั้ง 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่คาดว่า “แตงโม” พลัดตกเรือ ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ประมาณ 100 เมตร และห่างจากจุดที่ตำรวจบอกว่าตกเรือประมาณ 60 เมตร , จุดที่ 2 จุดที่พบศพผู้ตาย ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ประมาณ 160 เมตร และห่างจุดแรก 100 เมตร , จุดที่ 3 บริเวณเรือทราย ตรงท่าเรือของบริษัทเอกชน ใกล้กับสถานีสูบน้ำคลองบางเขนใหม่ ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ประมาณ 500 เมตร และห่างจุดพบศพ 600 เมตร

“อัจฉริยะ” กล่าวว่า จุดที่ตำรวจคาดว่า “แตงโม” ตกเรือ และจุดที่พบศพ ซึ่งตอนแรกคิดว่า น่าจะมีโคลน เพราะผลชันสูตรศพ พบว่ามีโคลนอยู่ในปอดผู้ตาย แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่ามีแต่ทรายหนาแน่นมาก ไม่มีโคลน ฉะนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีการตกบริเวณนั้น

ส่วนจุดที่ท่าเทียบเรือทราย ที่กล้องวงจรปิดเอกชนจับภาพได้ว่า มีการนำเรือมาจอด เมื่อเชื่อมโยงกับข้อสังเกตเรื่องทรายในกำมือของ “แตงโม” เมื่อตรวจสอบแล้ว กลับมีแต่โคลน ไม่มีทราย โดยหลักฐานเหล่านี้ จะส่งมอบให้ รมว.ยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ขณะที่หลักฐานอื่นๆ อย่าง “ผ้าขาว” ทราบว่า มีคนเจอที่แถวท่าช้าง ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอพยานที่พบเห็น เข้ามาให้ข้อมูลตนเองภายในวันนี้ โดยพยานของเราสามารถยืนยันได้ ไม่เหมือน “บังแจ็ค” แน่นอน ส่วนหลักฐานอื่นๆ เช่น มีดพับ K2 ตามที่ากศัลยแพทย์ออกมาพูด และสาธิตรอยบาดแผลกับหมู ยังไม่พบ และเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องค้นหา

ส่วนกรณีเอกสารราชการปลอม ประทับตราครุฑส่งไปที่บ้าน น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว อัยการจังหวัดนนทบุรี ที่รับผิดชอบคดี “แตงโม” โดยอ้างชื่อผู้ส่งตัวย่อ “อ.” นั้น ขอยืนยันว่า ยังไม่ได้พบ “อัยการดาว” และไม่ได้เป็นคนส่ง เพราะเพิ่งได้รับเอกสารลักษณะเดียวกัน ส่งมาที่บ้าน แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นเอกสารจริง ซึ่งเป็นคดีที่ยกฟ้องไปแล้ว โดยผู้ที่นำมาส่ง ต้องไม่ใช่ประชาชนทั่วไป เพราะเข้าถึงทะเบียนราษฎร์ได้

“สิ่งที่เราทำในวันนี้ ไม่ได้เสียเปล่า ไม่ใช่การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะเราได้หลักฐานหลายอย่างมาเพิ่มเติมแล้ว หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับดีเอสไอจะทำยังไงต่อ”