ปธน.ศรีลังกายื้ออยู่ต่อ แถลงยอมลดอำนาจ

ประธานาธิบดีโคตาบายา ราชปักษา แถลงครั้งแรกนับจากมีผู้ประท้วงปักหลักที่ด้านนอกทำเนียบเมื่อเดือน เม.ย. โดยให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนทุกคน และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพและตำรวจ จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อจลาจลอย่างเข้มงวดหลังจากเกิดเหตุจลาจล ที่มีการเผาบ้านเรือนติดต่อกัน 2 วัน และเขาจะเตรียมตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มีเสียงข้างมากและได้รับความไว้วางใจจากประชานเพื่อควบคุมสถานการณ์ในประเทศ 

ส่วนที่มีกระแสเรียกร้องจากหลายพรรคการเมืองให้ยกเลิกระบบประธานาธิบดี เขาสัญญาว่าเมื่อรัฐบาลชุดใหม่ฟื้นคืนเสถียรภาพในประเทศได้แล้ว เขาจะให้โอกาศศึกษาเรื่องนี้เมื่อมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่าย รวมทั้งเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่รัฐสภา 

ถ้อยแถลงของผู้นำศรีลังกาบ่งชี้ว่าจะยังไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง แม้มีประชาชนออกมาเดินขบวนขับไล่ตั้งแต่เดือน มี.ค. เพราะไม่พอใจการบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว ที่ทำให้ประสบวิกฤตครั้งเลวร้ายที่สุด ขณะที่นายกรัฐมนตรีมหินทา ราชปักษา พี่ชายยอมลาออกแล้วเมื่อวันจันทร์ หลังเผชิญเหตุจลาจล นอกจากนี้ พี นันดาลัล วีระสิงเห ผู้ว่าการธนาคารกลาง ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะลาออกจากตำแหน่ง หากยังไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ประธานาธิบดีโคตาบายายังไม่พูดถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล ที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อความรุนแรงเข้าปะทะกับผู้ประท้วงขับไล่ผู้นำเมื่อวันจันทร์ จนลุกลามกลายเป็นจลาจลเผาบ้านเรือนผู้นำ นักการเมือง และร้านค้าติดต่อกัน 2  คืน แต่เขากลับประณามฝ่ายผู้ประท้วงเท่านั้น 

ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน และบ้านเรือนถูกเผาเสียหาย 136 หลัง จากความรุนแรงตลอด 2 คืน ทหารและตำรวจกระจายกำลังลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อย และได้รับคำสั่งให้ยิงผู้ฝ่าฝืนกฎหมายได้ทันที ส่วนธุรกิจ ร้านค้า และสำนักงานทั่วประเทศยังคงปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อวันพุธ ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ตั้งแต่คืนวันจันทร์และขยายจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี