svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ชัยวุฒิ"ชงศาลปิดกั้นการเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มมีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน

10 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เล็งขยายผลปิดแพลตฟอร์มหมิ่นสถาบันฯ แนะ ส.วิชาชีพคุมกันเอง รบ.ไม่ยุ่ง ยันจำเป็นต้องส่งสัญญาณให้ต่างชาติรู้ว่าอย่าทำแบบนี้ในไทย

10 พฤษภาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าตรวจสอบเว็บไซต์และแพลตฟอร์มที่มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาด ในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบันของ ลาซาด้า และที่คล้ายกัน ว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ซึ่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว

 

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งไปที่ศาล เพื่อขอให้ปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์ม รวมถึง การแชร์ผ่านยูทูป ทวิตเตอร์​และเฟซบุ๊กเบื้องต้นพบทั้งหมด 42 ยูอาร์แอล อย่างไรก็ตาม โดยปกติหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ ได้รับการแจ้งจาก ดีอีเอส มักจะมีการปิดตัวเองอยู่แล้ว เพราะหากไม่ปิดจะมีความผิด คือเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และกฎหมายอื่น

"ชัยวุฒิ"ชงศาลปิดกั้นการเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มมีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน

 


เมื่อถามว่า ขณะนี้ มีการสั่งปิดกี่ยูอาร์แอลแล้ว นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ แต่คาดว่าน่าจะสามารถปิดได้เกือบทั้งหมด เพราะมีความผิดชัดเจน
 

เมื่อถามว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้อีกอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด เอเจนซี่โฆษณา อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ​และมีสมาคมวิชาชีพดูแล เพื่อหารือกันว่าการทำโฆษณาต้องถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่บูลลี่ หรือทำให้สังคมเกิดความรู้สึกไม่ดี จึงต้องมีการกำกับดูแลระหว่างกัน หากให้หน่วยงานหรือรัฐบาลไปสั่งก็คงไม่เหมาะสม เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็อยากให้เคารพกฎหมายและเป็นไปตามบริบทที่สังคมไทยรับได้ อะไรที่สังคมไทยรับไม่ได้ ก็อยากไปทำ หากไปทำอะไรที่ขัดความรู้สึกคนไทย สุดท้ายธุรกิจทำโฆษณาก็จะเสียหายเอง

เมื่อถามว่า การที่หน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานออกมาแบนลาซาด้า จะกระทบต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะสื่อต่างประเทศรายงานเรื่องนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของคนไทย และองค์กรต่างๆ ที่จะตอบโต้การกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งลาซาด้าและแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่เหมาะสม ถ้าไม่ตักเตือนและส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วย ก็จะมีการทำแบบนี้กันอีกไม่จบไม่สิ้น เราจึงต้องส่งสัญญาณให้ภาคธุรกิจและต่างชาติรับรู้ว่า คนไทยรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้ และให้หยุดการกระทำอย่ามาทำแบนี้ในประเทศไทย

 

ผู้สื่อข่าวซักถามว่า กังวลหรือไม่ว่า จะกระทบความสัมพันธ์เพราะลาซาด้าเป็นแพตฟอร์มจากประเทศจีน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องคิดถึงคนไทยเหมือนกัน จะคิดว่า อยากทำอะไรก็ได้มันไม่ถูก เป็นคนจีนก็ต้องเคารพกฎหมายไทยและความรู้สึกของไทย

 

"ชัยวุฒิ"ชงศาลปิดกั้นการเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มมีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน

เมื่อถามว่า เอเจนซี่ผู้จัดทำโฆษณาจะมีความผิดมากกว่าลาซาด้าใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่า ในหลักการ ต้องเริ่มจากการตรวจสอบเอเจนซี่ผู้จัดทำโฆษณา เพราะแพลตฟอร์ม อี คอมเมิร์ซไม่ได้เป็นผู้จัดทำโฆษณา อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีอัลกอริทึมและกฎหมายป้องกันและแก้ไขให้ทันในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่รอจนคนไทยด่าทั้งประเทศแล้วค่อยมาแก้

 

 

logoline