เจ้าอาวาสวัดหงษ์ จ.บุรีรัมย์ อ้าแขนรับ “แซน-อัจฉริยะ”สาบาน แนะไม่แน่อย่ามา

จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์สด ท้าแซนกับแก๊งคนบนเรือแตงโม ให้ไปสาบานที่วัดหงษ์ หรือ วัดศีรษะแรด อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ หากไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของแตงโม จน "แซน" วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยินดีรับคำท้า แต่ขอเป็นในกรุงเทพฯ ถ้าไปที่บุรีรัมย์ ขอจุดธูปหน้าบ้านไปพร้อมกับ "นายอัจฉริยะ" นั้น

ล่าสุดพระเบิกกฤกษ์ ฐานตตโร หัวหน้าคณะสงฆ์วัดหงษ์ บ้านศีรษะแรด  เปิดเผยว่า ถ้ามาจริงทางวัดพร้อม จะมาคนเดียวหรือมาเป็นคณะได้ทั้งนั้น ใช้เวลาในการทำพิธีประมาณ 20 นาที ผู้เข้าสาบานจะต้องทำตามมัคนายกของวัด และจะต้องกินน้ำมนต์ที่สาบานไว้ต่อหน้าพระหงษ์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำน้ำมนต์ออกจากวัดไปกินที่อื่น วัดนี้เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ ใครมาสาบานแล้วห้ามฝืนโดยเด็ดขาด แต่ถ้าสาบานแล้วคิดว่าทำไม่ได้ จะต้องมาถอนคำสาบาน แล้วพระจะไม่ลงโทษ หาก "แซน" กับ "นายอัจฉริยะ" จะมาจริง ขออย่ามาแอบถอนคำสาบานก็แล้วกัน

ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า วัดหงษ์เป็นตำนานแห่งคำสาบานมานานนับ 100 ปี ที่ผ่านมาใครสาบานแล้วไม่ทำตาม มักจะมีอันเป็นไปทุกราย มีทั้งประสบอุบัติเหตุ เสียสติ แต่ถ้ามาถอนคำสาบานก็จะไม่เป็นอะไร จึงอยากจะฝากถึงแซนหรือผู้ที่คิดจะมาสาบานเพราะคำท้า ถ้าไม่แน่จริง อย่ามา

ทั้งนี้ "ลุงพล" หรือ นายไชย์พล วิภา  เคยเดินทางมาวัดแห่งนี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2563 โดยครั้งนั้นชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่พากันมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่า "ลุงพล" กล้ามาสาบานความบริสุทธิ์กับวัดหงษ์แห่งนี้ ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังในด้านคำสาบาน แต่ท้ายที่สุด "ลุงพล" ปฏิเสธการสาบาน เปลี่ยนมาเป็น "ขอพร" แทน ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ทำให้ตามความสมัครใจ หลังจากเสร็จพิธี "ลุงพล" ก็บริจาคเงินใส่ตู้แล้วเดินทางกลับ

เจ้าอาวาส ระบุชัดเจนว่า จริงๆแล้วใครมีปัญหาในลักษณะแบบนี้ต้อง”สาบาน”อย่างเดียว เพราะหากบริสุทธิ์จริงก็จะเจริญรุ่งเรือง แต่หากไม่เป็นไปที่สาบาน ส่วนใหญ่จะมีอันเป็นไป เนื่องจากวัดหงษ์แห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของคนไทยเกือบทั่วประเทศในด้านคำสาบาน รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำบุญวัดนี้เป็นประจำ เพราะความศักดิ์สิทธิ์ ของพระเจ้าหงษ์