หุ้นสหรัฐฯ ร่วงเกิน 1,000 จุด ไม่มั่นใจเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดเงินเฟ้อได้
ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ดิ่งลงเกิน 1,000 จุด เมื่อวาน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดในรอบ 2 ปี หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 1,063.09 จุด หรือ 3.12% ปิดที่ระดับ 32,997.97 จุด และดัชนีแดสแน็กร่วงลง 4.99% ปิดที่ 12,317.69 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดในวันเดียวของดาวโจนส์และแนสแด็ก นับตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 3.54% ปิดที่ 4,147.78 จุด
หุ้นแกว่งตัวอย่างแรงสวนทางกับเมื่อวันพุธที่ตลาดโล่งใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 22 ปี แต่ไม่เกินความคาดหมาย และเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ให้ความมั่นใจด้วยว่าจะยังไม่มีการพิจารณาปรับขึ้นเกินกว่า 0.5% ในครั้งต่อไป
การเทขายหุ้นของนักลงทุนเมื่อวานสะท้อนความไม่มั่นใจว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้จะเพียงพอควบคุมอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ นักลงทุนกังวลว่าค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้การใช้จ่ายของครัวเรือนลดลง
นอกจากนี้ตลาดยังผิดหวังต่อการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ ที่มีจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มอีก 19,000 ราย เป็น 200,000 ราย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนดัชนีผลิตภาพแรงงานลดลง 7.5% ในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2470