5 พฤษภาคม 2565 ที่หอประชุมควรเดชะคุปต์ ตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจในสังกัด แถลงการระดมกวาดล้างอาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอาวุธสงคราม ที่มีการนำไปใช้ก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ ทำให้สถานการณ์การก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มสูง สร้างความเดือดร้อน หวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
พล.ต.ท.ยรรยง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พร้อมเปิดปฏิบัติการเชิงรุกทั้งการหาข่าว ระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น ยึดอาวุธปืน นำหมายเข้าตรวจค้นกลุ่มเสี่ยงที่เชื่อว่ามีอาวุธปืนซุกซ่อน พร้อมดำเนินคดีเอาผิดผู้ที่มีอาวุธปืนในครอบครอง เพื่อตัดวงจรการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ให้ลดลง
“การก่อเหตุอาชญากรรมที่ผ่านมาในพื้นที่พบว่ามีเพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่คนร้ายใช้ปืนในการก่อเหตุ เนื่องจากปืนหาง่าย ในจำนวนนี้พบว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนดัดแปลงเพิ่มขึ้น เพราะซื้อหาได้ง่ายส่วนใหญ่สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ จึงทำให้มีอาวุธปืนนำมาใช้ก่อเหตุ แต่กลับพบว่าปืนดัดแปลงที่นำมาใช้ก่อเหตุนี้ มีความรุนแรงไม่ต่างจากปืนจริง นอกจากการตรวจค้นแล้ว ได้กำชับให้ตำรวจทุกนาย ได้หาข้อมูล แหล่งผลิต แหล่งรับจำนำ และแหล่งดัดแปลงอาวุธปืน โดยให้ทุกหน่วยได้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแหล่งที่ดัดแปลงอาวุธปืน ”
สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 มีเหตุคนร้ายนำอาวุธปืนและอาวุธสงครามมาใช้ก่อเหตุหลายคดี เช่น คดีทะเลาะวิวาททำร้ายกันในงานมหรสพ งานบุญประเพณี คดีประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งมีแนวโน้มใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นตามมา สำหรับการระดมกวาดล้างอาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ระหว่างวันที่ 2 - 4 พฤษภาคม 2565 จากการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 12 จังหวัด 250 เป้าหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 259 คน ตรวจยึดอาวุธปืนรวม 241 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 2,111 นัด เครื่องกระสุนปืนใช้เฉพาะ สงคราม 13 นัด และวัตถุระเบิด 4 ลูก โดยปฏิบัติการเชิงรุกนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อีกทั้งลดจำนวนการก่อเหตุอาชญากรรมด้วย
ข่าว/ภาพ กวินทรา ใจซื่อ สำนักข่าวเนชั่น