ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (28 เม.ย.) ชาวโซเชียลได้มีการจับโป๊ะตำรวจที่แถลงคดีการเสียชีวิตดาราสาว "แตงโม นิดา" โดยมีการเอาภาพเคสจากต่างประเทศเทียบบอกแผลใบพัดเรือชนิดเดียวกัน ทั้งที่ต้นทางยังสรุปไม่ได้ (อ่านข่าว)
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แถลงชี้แจงกรณี ภาพบาดแผลจากต่างประเทศ ที่อ้างว่า เกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งทางตำรวจได้นำมาเทียบเคียงกับบาดแผลที่ขาของ "แตงโม นิดา" ทำให้เชื่อว่า แผลที่ขาแตงโมเกิดจากใบพัดเรือ หลังการสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา แต่กลับพบว่า มีข่าวจากสำนักข่าวเดอะซัน ประเทศอังกฤษ ที่มีผู้บาดเจ็บถูกของมีคมบาดขาเป็นรอยยาวโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งรอยแผลดังกล่าวคล้ายกับภาพบาดแผลของศพแตงโม ที่ตำรวจนำมาแถลงข่าวสรุปสำนวน
พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า ภาพที่นำมาอธิบายลักษณะบาดแผลเป็นรูปโค้งเว้า โดยตำรวจได้ใช้คำว่า บาดแผลโค้งเว้าที่มีลักษณะเดียวกันในวันแถลงสรุปคดี เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่สามารถนำบาดแผลจากศพมานำเสนอได้ โดยแผลหลังการเย็บจะมีรูปโค้งเว้าเป็นอักษรตัวเอส ซึ่งทีมงานที่นำมาเสนอต้องการให้เห็นภาพบาดแผลว่าเป็นอย่างไร
โดยภาพบาดแผลนั้น สามารถค้นหาได้ด้วยคำว่า propeller wound ซึ่งมีทั้งบาดแผลในคนและสัตว์ โดยตำรวจได้ศึกษางานวิจัยของต่างประเทศ ในเรื่องคนที่ถูกใบพัดเรือฟันในลักษณะต่าง ๆ ยืนยันว่า ตำรวจไม่สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ในโลกที่ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ได้เช่นปัจจุบัน จึงต้องขออภัยประชาชน ที่นำภาพซึ่งไม่ได้ระบุแหล่งที่มาอย่างครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจที่กำกวม และมีข้อสงสัย
ยืนยันว่า เจตนาที่แท้จริง ตำรวจต้องการนำเสนอภาพบาดแผลที่คล้ายอักษรตัวเอสเท่านั้น ประเด็นนี้ ไม่ทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า จากภาพในงานวิจัยดังกล่าวพบว่า หากโดนใบพัดเรือเฉี่ยว แผลจะเป็นรอยก้างปลาตรง ๆ ถ้าใบพัดฟันลึกไปอีกจะเป็นตัวเอส แต่หากลึกไปเลยจะมีความโค้งมากกว่าตัวเอส
เมื่อถามว่า กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ตั้งข้อสังเกตว่า บาดแผลบนศพมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 11 รอย เป็น 26 รอย โดยไม่มีการระบุที่มาของแผลเพิ่มเติมนั้น ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ตอนนี้ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากสาระสำคัญในคดีไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว มีการเปิดคลิปที่สื่อหนึ่ง เปรียบเทียบร่องรอยบาดแผลของผู้ที่ถูกใบพัดเรือฟันใส่ขา โดยคนเจ็บอยู่หัวเรือและถูกเรืออีกลำเข้ามาชน เมื่อคนเจ็บตกเรือก็ถูกใบพัดเรือตีเข้าที่ขา 2 ข้าง จนเส้นเลือดใหญ่ขาดทำให้ขาไม่มีแรง ก่อนว่ายเข้าฝั่งไปได้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ฟังการแถลงชี้แจงด้วย พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มารับฟังข้อมูลในฐานะประชาชน ไม่ได้มากดดันเจ้าหน้าที่ และไม่ขอตอบอะไรมาก จากนี้ก็จะนำข้อมูลมาประชุมกับ ทีมงาน ส.ส.เต้ อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มีประเด็นในใจอยู่แล้ว 50/50 เมื่อย้ำถามว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมหรือไม่ ทนายกฤษณะ บอกว่าเป็นประเด็นที่ตนเคยตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว