เพื่อนบ้านเอาบัตรสวัสดิการฯของตาพิการรูดซื้อสินค้า 4 ปี สูญหมื่นบาท

21 เมษายน  2565 ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้านเก่าค้อ ต.สระแก้ว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ในภาพจะเห็นยายคนหนึ่งเดินเข้าไปซื้อของภายในนร้านขายของชำ พร้อมกับยื่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อชำระสินค้า เป็นภาพที่น้องสาวของนายสวย  เที่ยงดี ตาวัย 65 ปี ที่พิการทั้งหูและตา นำเอามาให้ตำรวจ สภ.เปือยน้อยเพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดคนร้ายที่นำเอาบัตรสวัสดิการของนายสวย พี่ชายของตนไปรูดซื้อของ ซึ่งล่าสุดรูดไปกว่า 7,000 บาท

ผู้สื่อข่าว สภ.เปือยน้อย พบกับนางต้อย หล้ากันหา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.3 บ้านเก่าค้อ ต.สระแก้ว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น พร้อมนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล ได้พานายสวย เที่ยงดี อายุ 65 ปี  อยู่บ้าน ผู้เสียหาย ที่ถูกคนในหมู่บ้านเดียวกัน เอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนของนายสวย ไปรูดซื้อสินค้าตามร้านค้าต่างๆตั้งแต่ช่วงปี 60 จนถึงปี 2564 จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจทำการสืบสวน จับกุม คนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยได้เข้าแจ้งความเมื่อเดือนกรกฏาคม 2564  แต่คดีไม่มีความคืบหน้า  จึงได้พากันเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อทวงถามความคืบหน้าและขอความเป็นธรรมในกรณีที่แจ้งความไว้ กับผกก.สภ.เปือยน้อย

พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.เปือยน้อย ได้มารับหนังสือจากชาวบ้านด้วยตัวเอง พร้อมทั้งชี้แจงกรณีที่ชาวบ้านแจ้งความไว้ว่า กรณีที่นายสวย เที่ยงดี อายุ 65 ปี   ผู้เสียหาย ที่ถูกคนในหมู่บ้านเดียวกัน เอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนของนายสวย ไปรูดซื้อสินค้าตามร้านค้า และแจ้งความไว้นั้น พนักงานสอบสวน คือ ร.ต.อ.รัชชานนท์ ศิริกิจ สว.สอบสวนสภ.เปือยน้อย  ได้มีการสอบสวนและทำสำนวน  พร้อมทั้งขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือธนาคารกรุงไทยมาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนนั้น เป็นบัตรอิเลคทรอนิค มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่มีการนำเงินเข้าและเบิกออกไปใช้ ต้องขอจากหน่วยงานที่กำกับดูแลการใช้บัตร ซึ่งในการขอข้อมมูลก็ใช้เวลานานพอสมควร  แต่พนักงานสอบสวนก็ทำสำนวนส่งอัยการเป็นที่เรียบร้อย  แต่พนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้แก้ไขสำนวนและสอบสวนเพิ่มเติม  ซึ่งพนักงานสอบสวนก็มีการจัดการในเรื่องของสำนวนเรียบร้อยแล้ว และส่งสำนวนเรียบร้อยแล้ว

"คนที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของนายสวยไปและซื้อสินค้าในร้านค้า และบุคคลรายดังกล่าวก็เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วชื่อนาง สวาส มาตย์วังแสง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่3  ต.สระแก้ว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการสอบสวนนางสวาส ให้การว่า เก็บบัตรได้  โดยไม่รู้ว่าเป็นของใคร จึงลองนำไปใช้ ปรากฏว่าใช้ได้ จึงใช้เรื่อยมา ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงเดือนกรกฏาคม 2564 และยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทางนายสวย  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน   หลังแจ้งข้อกล่าวหาก็ปล่อยตัวไป เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานตามวันเวลาที่กำหนด"

ทางด้านนางต้อย หล้ากันหา อายุ 63 ปี น้องสาวนายสวย กล่าวภายหลังฟังคำชี้แจงของผกก.สภ.เปือยน้อยว่า  รับฟังได้ แต่ไม่เชื่อในสิ่งที่ ผกก.พูด เพราะที่ผ่านมา ถูกตำรวจหลอกมาตลอด อีกทั้งพยาน หลักฐานต่างๆก็เป็นคนหามาให้ตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อถามความคืบหน้ากับตำรวจ  ตำรวจแจ้งว่า ส่งเรื่อง ส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลแล้ว พูดแบบนี้หลายครั้ง แต่เมื่อเดินทางไปสอบถามที่ศาล ปรากฏว่า ไม่มีการส่งตัว หรือมีเรื่องไปที่ศาลแต่อย่างใด  จึงอยากให้ตำรวจ ดำเนินการจัดการเรื่องของพี่ชายอย่างจริงจัง และขอให้ไปจบกันที่ศาล ไม่ได้เงินสักบาทก็ไม่ว่ากัน  อยากให้ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องการนำบัตรของพี่ชายมาใช้ เพราะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถูกส่งมายังเทศบาลตำบลสระแก้ว อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น แล้วใครที่เป็นคนเอาบัตรของพี่ชายออกจากเทศบาล เอาไปแล้ว ไปทำอย่างไร ทำไมบัตรถึงไม่ถึงมือพี่ชาย เพราะคนในหมู่บ้าน ต่างก็รู้ว่าพี่ชายพิการ ตาบอด มือพิการ หูหนวก ยังทำกันได้ จึงอยากให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนเอาคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ด้วย

ภาพ/ข่าว : พรพรรณ เพ็ชรแสน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน