วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะฯ ได้บินด่วนมาที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อรับตัวคนไทย 31 คน เหยื่อแก๊งคอลเซ็นตอร์ค้ามนุษย์ชาวจีนในกัมพูชา จากเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปตฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา ที่นำทั้งหมดเดินเท้าจากฝั่งปอยเปต มาส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก
โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่กัมพูชา พร้อมบอกว่า ทางการไทยจะส่งหมายจับไปทางการกัมพูชาให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมคนไทยที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งอยู่ในฝั่งเมืองสีหนุวิวล์ ประเทศกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว ได้นำคนไทยทั้งหมดเข้าสู่การตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิดและกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง
เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับ พล.ต.ท.สรุเชษฐ์ ว่า เดินทางไปทำงานที่กัมพูชาได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง โดยเดินทางข้ามแดนในพื้นที่ป่าซึ่งจำไม่ได้ เนื่องจากมีคนพาข้ามตอนกลางคืน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะให้ทำงานหลอกคนร่วมลงทุน ต่อคนจะต้องมียอดประมาณ 3 แสนบาทต่อเดือน โดยมีกลุ่มชาวจีนเป็นผู้ควบคุมดูแล ใช้ล่ามแปลภาษาในการสื่อสารกัน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร. กำชับให้ปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำว่าคนไทยที่เดินทางไปทำงานอยู่ที่กัมพูชาก็ไม่ใช่สุขสบาย วันนี้เมื่อกลับมาประเทศไทยให้ดำเนินคดีทุกราย
กรณีที่ไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยจะถูกดำเนินคดี 2 ฐาน คือ 1.หลบหนีออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย และ 2.ความผิดตาม พรบ.ของกระทรวงแรงงาน ฐานเดินทางไปทำงานยังต่างแดนโดยไม่แจ้งให้กรมแรงงานทราบ
ทั้งนี้ยังมีคนไทยที่อยู่ปอยเปตเหลือประมาณ 20 - 30 คน และมีคนไทยที่ถูกออกหมายจับไว้อีก 43 - 44 คน ซึ่งได้ประสานทางการกัมพูชาให้จับกุมคนไทยที่หลงเหลืออยู่กลับมาลงโทษในประเทศไทยให้หมด ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้เป็นตัวหลักที่ร่วมกับคนจีนในการหลอกลวงคนไทย
ส่วนมากมาตรการป้องกันที่จะเอาจริงเอาจังหลังจากนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนจะลงไปดูบริเวณจุดต่าง ๆ โดยจะเอาคนที่ลักลอบออกไปมาไล่ทั้งหมด แล้วย้อนกลับไปว่า ออกทางช่องทางไหน ซึ่งนับจากวันนี้ไป หัวหน้าสถานี ผู้กำกับฯ แนวชายแดน ถ้ายังพบว่ามีคนไทยหลบหนีออกไปได้ ตนก็จะเอาผู้กำกับหัวหน้าสถานีมาพิจารณาลงโทษ เพราะไม่ใช่ว่าชายแดนยาวจริง แต่ช่องทางที่ออกประจำมีไม่กี่ช่อง และหากพบมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งหมด