
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2565 หญิงสาววัย 25 ปี เข้าพบพลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยก่อเหตุลวนลามเธอเมื่อต้นปี 2564 ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงใหม่
พลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายว่าจะประสงค์จะมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ในขณะนี้ได้จัดพนักงานสอบสวนหญิงทำการสอบปากคำผู้เสียหายก่อนแล้วเข้าสู่กระบวนการสอบสวนในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะนี้ผู้เสียหายมีความกังวัลเกี่ยวกับชื่อเสียงอยู่แต่ในส่วนทางคดีนั้นก็ต้องดูพยานหลักฐานในรายละเอียดที่ผู้เสียหายให้นั้นครบถ้วนขนาดไหนถ้ามีพยานหลักฐานครบถ้วนก็ใช้เวลาไม่นานในการสรุปสำนวนคดีได้
ด้านสาววัย 25 ปีที่ตกเป็นเหยื่อ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อสองปีก่อนนั้นเธอรู้จักกับผู้ก่อเหตุในงานสัมนาที่เชียงใหม่หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาทักทายพูดคุยด้วย ซึ่งด้วยโปรไฟล์ผู้ก่อเหตุเป็นคนมีชื่อเสียงเธอจึงได้พูดคุยด้วยและแลกเบอร์โทรศัพท์และมีไลน์คุยกัน
ต่อมาเมื่อต้นปี 2564 ผู้ก่อเหตุได้โทรมาหาบอกว่าจะมีการสัมนาเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและคริปโต้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตนเองได้สนใจจึงตอบตกลง และนัดกับผู้ก่อเหตุเจอกันที่โรงแรมที่จะจัดงาน แต่เมื่อไปถึงที่โรงแรมกลับไม่พบว่ามีการจัดงานตนเองจึงโวยวายและพูดเสียงดังซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยายามทำท่าทางให้ตนเบาเสียงลงและทำทีโทรหาคนจัดงานเพื่อให้ตนตายใจก่อนจะอ้างว่าคนจัดงานให้ไปรอที่ห้องพักภายในโรงแรมก่อน
“ตนก็เดินตามไปเพื่อไปรอแต่ระหว่างรอนั้นผู้ก่อเหตุก็พยายาม ชวนพูดคุยเรื่องการศึกษาก่อน หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์ถามตนว่าเคยมีแฟนมั๊ย ตนบอกว่าไม่มี ซึ่งผู้เสียหายก็ย้ำว่าไม่มีจริงๆเหรอก่อนจะจับมือของตนไปดูลายมือซึ่งตนก็ตกใจที่จู่มาจับมือตนเองซึ่งตนเองก็ตั้งตัวไม่ทันก่อนจะบอกว่าลายมือตนดีนะวาสนาดี”
ต่อจากนั้นก็ขยับมานั่งใกล้ๆตนเองก่อนจะเข้ามาจูบปากตัวเอง ซึ่งตนเองตกใจมากรีบลุกและใช้มือขยี้ปากอย่างขยะแขยงแล้วรีบลุกขึ้นเปิดประตูวิ่งออกมาที่ลานจอดรถ เพื่อจะขับรถกลับ ซึ่งจะร้องให้คนช่วยไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะมีลูกน้องของผู้ก่อเหตุอยู่ที่นั้นหรือเปล่า
เมื่อถึงลานจอดรถผู้ก่อเหตุก็ตามตนจนทันและหอมแก้มตนไปทีหนึ่ง ซึ่งตนตกใจมากก่อนจะรีบขับรถกลับมาบ้านและมาเล่าให้ครอบครัวฟังถึงเรื่องดังกล่าว และรับไม่ได้กับพฤติกรรมของชายคนนี้ จึงได้แต่เก็บไว้เรื่อยมาเพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียงไปบอกใครก็จะไม่มีใครเชื่อ
หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุยังโทรมาหาเธออีก ซึ่งเธอจึงได้บล็อคเบอร์โทรแต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ละความพยายามใช้เบอร์ใหม่โทรมาหาเธอเรื่อยรวมแล้วประมาณ 5 เบอร์ซึ่งเธอได้บล็อคทั้งหมดทุกวันนี้เธออยู่อย่างหวาดระแวงเมื่อมีเบอร์แปลกๆโทรมา กระทั่งมีคนออกมาเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้ติดต่อไปหาทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ว่าเธอก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย
ตนต้องการมาเปิดเผยความจริงเรื่องดังกล่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับผู้หญิงทุกคน โดยต้องการให้ผู้ก่อเหตุออกมารับความจริงว่าได้ก่อเหตุจริงกล้ารับแบบลูกผู้ชาย อย่ามองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนที่ไปหาเขานั้นจะชอบเขาทุกคนที่เขาไปหานั้นเพราะคุณสร้างความเชื่อถือนำเรื่องงาน เรื่องความรู้เรื่องที่น่าสนใจมาหลอกล่อ จึงทำให้ผู้หญิงทุกคนต้องเป็นเหยื่อ วันนี้ตนจึงขอออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง โดยยืนยันว่าสำหรับเรื่องของตนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน