นายกรัฐมนตรี คิม บู-คยอม แถลงวันนี้ (15 เม.ย.) ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอนชะลอลงอย่างมาก หลังจากเคยพุ่งสูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค. และจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับทรงตัว และระบบสาธารณสุขก็มีศักยภาพแข็งแกร่ง ทำให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั้งหมด ยกเว้นเพียงมาตรการบังคับสวมหน้ากากที่จะยังคงไว้อยู่ ระหว่างที่รัฐบาลดูแนวโน้มการระบาดในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า
เขาระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ร้านอาหาร คาเฟ่ และธุรกิจรายย่อยอื่น ๆ จะสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติโดยไม่มีเคอร์ฟิว และเลิกจำกัดจำนวนคนในการรวมกลุ่มสังสรรค์ส่วนตัว ในขณะที่มาตรการปัจจุบันอนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ เปิดได้ถึงเที่ยงคืน และการสังสรรค์ส่วนบุคคลจำกัดได้เพียง 10 คน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้ร่วมงานสูงสุด 299 คน ในกิจกรรมและการชุมนุมขนาดใหญ่ และยกเลิกข้อจำกัดให้ศาสนสถานรองรับประชาชนได้เพียง 70% ของพื้นที่ ส่วนการรับประทานอาหารในโรงภาพยนตร์ ยิมในร่ม และศาสนสถานสามารถทำได้ เริ่มตั้งแต่ 25 เม.ย.นี้ หรือเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังการยกเลิกมาตรการอื่น ๆ ทั้งหมดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและอุตสาหกรรม มีเวลาเตรียมพร้อมมาตรการเพื่อปกป้องผู้ใช้บริการไม่ให้ติดเชื้อ
เกาหลีใต้เริ่มใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อเดือน มี.ค. 2563 และเริ่มผ่อนปรนข้อบังคับเว้นระยะห่างตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว แต่ต้องยกระดับมาตรการเข้มงวดอีกรอบเมื่อโอมิครอนทำให้ตัวเลผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น และล่าสุดนอกเหนือจากการเตรียมยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทั้งหมด รัฐบาลจะลดระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 จากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ป่วยรับการรักษาจากคลินิกและโรงพยาบาลในท้องถิ่น และใช้ชีวิตตามปกติได้โดยไม่ต้องกักตัว