15 เมษายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “ThiraWoratanarat” เผยข้อมูลการวิเคราะห์วัคซีนชนิด mRNA ของ FDA สหรัฐฯ ที่ระบุถึงความสำคัญของวัคซีนเข็ม 3 และประสิทธิภาพนั้นยาวนานเพียงใด มีเนื้อหาดังนี้
15 เมษายน 2565 ทะลุ 502 ล้านคนไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 916,780 คน ตายเพิ่ม 3,308 คน รวมแล้วติดไปรวม 502,812,309 คน เสียชีวิตรวม 6,217,375 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 83.19 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 75.39
การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 30.35 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 22.55
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 15.41% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
การใช้ชีวิตและทำมาหากินที่ไม่ปลอดภัย จะเป็นภัยคุกคามต่อสวัสดิภาพทุกคนในสังคม
การใช้ชีวิต และทำมาหากิน โดยมีพฤติกรรมส่วนบุคคลที่ไม่ป้องกันตัว ทำกิจกรรมเสี่ยง ไปในสถานที่เสี่ยง ทั้งๆ ที่สังคมยังเผชิญกับการระบาดรุนแรงดังที่เป็นในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลต่อตนเองเท่านั้น แต่จะเป็นภัยคุกคามต่อสวัสดิภาพของทุกคนในสังคม ทั้งสมาชิกในบ้าน คนบ้านใกล้เรือนเคียง คนในที่ทำงาน รวมถึงคนอื่นในสังคมที่ต้องพบปะกับคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงนั้น
เหตุการณ์ในจังหวัดต่างๆ ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร อาทิ ถนนข้าวสาร รวมถึงสถานบันเทิงย่านรามอินทรา ที่เป็นข่าวใหญ่ในสื่อมวลชนช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ชี้ให้เห็นความเสี่ยงต่อการระบาดปะทุหนักขึ้นได้ เพราะมีเรื่องไม่ใส่หน้ากาก แออัด คลุกคลีใกล้ชิด อยู่กันในที่ระบายอากาศไม่ดี ระยะเวลาที่อยู่กันนาน แชร์ของร่วมกัน รวมถึงการเล่นน้ำสาดน้ำหรือใช้ปืนฉีดน้ำเล่นกัน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องตระหนักถึง"บทบาทหน้าที่"ของตนเองในการปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน
และยามที่เกิดการระบาดปะทุรุนแรงขึ้น จนนำมาสู่ความสูญเสียชีวิต และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังสังคมและเศรษฐกิจ คงจะไม่เป็นธรรมหากจะบอกให้ทุกคนทุกภาคส่วนในสังคมต้องมารับผิดชอบร่วมกัน เพราะความสูญเสียนั้นเกิดจากน้ำมือกลุ่มคนและกลุ่มธุรกิจส่วนน้อยที่ฝ่าฝืน ไม่รับผิดชอบ และหน่วยงานรัฐที่มีกฎหมายในมือแต่ไม่สามารถจัดการปราบปรามหรือป้องกันได้
สำนึก และความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกภาคส่วนจำเป็นต้องมี เพื่อประคับประคองให้เราอยู่รอดปลอดภัยจากโรคระบาด ใช้ชีวิตได้ ทำมาหากินได้ แต่ควรเป็นไปในแนวทางที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อสังคม
อัพเดตข้อมูลเรื่องวัคซีนจาก US FDA
วิเคราะห์ผลของวัคซีน (mRNA vaccines เป็นหลัก) เป็นที่ชัดเจนว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) นั้นมีความจำเป็น เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิต
ในขณะที่การฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็มนั้น จะได้ผลในการป้องกันช่วงแรก แต่ประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
ทั้งนี้ในกลุ่มคนที่มีแข็งแรงดีนั้น ผลในการป้องกันยาวนานกว่า 4-6 เดือนหลังฉีดเข็มกระตุ้น ส่วนผลของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อนั้น ดูจะหวังได้น้อย
ข้อมูลข้างต้นเน้นย้ำให้เราเห็นถึง 2 เรื่องสำคัญคือ
...การใส่หน้ากากเสมอ เป็นหัวใจสำคัญ และเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะป้องกันตัวคุณและคนที่คุณรัก...