แม่ร้องลูก 7 ขวบหลังฉีดวัคซีนเลือดออกตามผิวหนังทั่วร่างกาย

จากกรณีของคุณแม่รายหนึ่งทราบชื่อคือ นางสาวพิมพกานต์ โคตรภักดี อายุ 27 ปี ออกมาขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากลูกสาววัย 7 ขวบ ลูกสาวมีอาการเลือดออกตามผิวหนัง เช่น เล็บ ฝ่ามือ โพรงจมูกและปัสสาวะปนเลือด ทั้งๆที่ไม่มีบาดแผลใดๆ

โดยแม่เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยมีอาการดังกล่าวเลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ตนพาลูกสาวไปฉีดวัคซีนโควิด-19 และต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 เมษายน 2565 ลูกก็เริ่มมีเลือดออกตามนิ้วมือ ฝ่ามือ ปัสสาวะปนเลือด และมีอาการแสบที่บริเวณดังกล่าว

แล้วพอตกดึกของวันเดียวกัน อาการก็หนักขึ้น คือมีเลือดออกจากโพรงจมูกร่วมด้วย ทำให้ตนต้องพาไปหาหมอในช่วงเช้าของวันที่ 8 เมษายน 2565 โดยรอบแรกที่หมอวินิจฉัยว่าเป็นริดสีดวงในโพรงจมูก พร้อมกับให้ยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการอักเสบในโพรงจมูก

จากนั้นตนก็แจ้งกับหมอว่าลูกมีเลือดออกตามส่วนอื่นของร่างกาย รวมถึงมีปัสสาวะปนเลือดด้วยพร้อมกับเปิดรูปให้ดู หมอจึงทำการเจาะเลือดและนำปัสสาวะของลูกไปตรวจ
 

กระทั่งเมื่อวานนี้ 12 เมษายน 2565 ซึ่งหมอนัดให้ตนไปฟังผลเลือด ปรากฎว่าผลเลือดปกติ ตนก็เลยถามหมอว่าแล้วอาการที่ลูกมีเลือดออกตามร่างกายแบบนี้ มันเกิดมาจากอะไร หมอก็สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นอาการของ “โรคภาวะเหงื่อออกเป็นเลือด” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Hematohidrosis เป็นภาวะที่มีเลือดออกจากผิวหนังปกติที่ไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆ ซึ่งสามารถพบเลือดออกได้ตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น หนังศีรษะ ฝ่ามือ หลังมือ หน้าผาก ใบหน้า ซอกพับ หรือดวงตา พร้อมกับมีการนัดให้เข้าลูกเข้าตรวจกับหมอผิวหนังอีกรอบ

ผู้เป็นแม่ยอมรับว่าตอนนี้หวั่นใจและเครียดมาก เพราะลูกมีอาการดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2565 ถึงปัจจุบัน รวมแล้วประมาณ 7 วัน วันละ 4-5 รอบในบริเวณที่เดิมซ้ำๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวมีอาการแบบนี้ กลัวว่าลูกสาวจะมีอาการดังกล่าวจนช็อค จึงอยากให้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยอาการที่ลูกเป็น เป็นผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ หรือเป็นอะไรกันแน่ เพื่อหาวิธีรักษา.

ภาพ/ข่าว : สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ สำนักข่าวเนชั่น จ.สุราษฎร์ธานี