“หมอขอบ่น” เปิดแชตลับแฉความวีไอพี "จอนนี่มือปราบ"

จากกรณีคนดังในโลกโซเชียล “จอนนี่มือปราบ”  หรือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ที่ออกมาไลฟ์เฟซบุ๊กร่ำไห้ขอให้ชาวอุบลราชธานีช่วยเปิดทางเพื่อให้ส่งลูกสาวและแม่ยายที่ถูกรถชนบาดเจ็บสาหัสไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมตามมาเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด เพจดัง “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor”  ได้โพสต์เปิดเผยคลิปในเหตุการณ์ที่มีคนโวยวายอยู่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยคนที่กำลังโวยวายมีน้ำเสียงคล้ายกับ “จอนนี่มือปราบ”  ที่ตะโกนขอเจ้าหน้าที่ให้เกียรติ

เพจดังกล่าวยังโพสต์เพิ่มเติมด้วยว่า ในเหตุการณ์นี้ ลูกสาวผู้บาดเจ็บยังไม่ทันได้ลงจากรถ ก็ไปด่าเร่งเวรเปลและเจ้าหน้าที่ให้รีบมารับ ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่มีเวลาแต่งตัวป้องกันโควิด-19 เลย ทั้งที่ลูกสาวก็เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงมาก และอาการของลูกก็คงที่ เพียงแค่ย้ายจากโรงพยาบาลชุมชนมาที่โรงพยาบาลจังหวัดเท่านั้น อยากให้ทำตัวใจเย็นแบบคนปกติ ไม่ใช่มาถึงต้องเรียกร้องวีไอพีทุกอย่าง ตะโกนโหวกเหวกโวยวายให้คนหันมามองทั้งโรงพยาบาล เหมือนจะบอกว่าตัวเองเป็นคนดัง

นอกจากนี้ ทางเพจยังเปิดเผยแชตลับแฉว่า ภายหลังเกิดเหตุ พบว่า แม่ยายของจอนนี่แขนหัก ขาหัก ครั้งแรกจะมีการส่งแม่ยายของจอนนี่ไปโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในจังหวัดอุบลราชธานี แต่เจ้าตัวไม่ไปเนื่องจากทางโรงพยาบาลเรียกค่าใช้จ่ายที่ 300,000-500,000 บาท จอนนี่ต้องการส่งคุณแม่ไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ แต่ทางโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ไม่รับ เพราะแม่ยายติดโควิดอยู่ รอให้โควิดหายก่อนแล้วค่อยต่อกระดูกให้

ต่อมาจึงส่งไปยังโรงพยาบาลวารินชำราบ แต่ทางก็ตอบแบบเดียวกับโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ จอนนี่จึงโวยวายกับทาง ผอ. ทาง ผอ. จึงโทรศัพท์หาทางจังหวัด จังหวัดจึงประสานให้โรงพยาบาลวารินชำราบรับในที่สุด และในภายหลังก็มีการย้ายแม่ยายมายังโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์

อย่างไรก็ตามล่าสุด (9 เม.ย.65) เวลา 19.45 น. เพจ "จอนนี่มือปราบ" ได้โพสต์ข้อความว่า 

"พ่อแม่ทำทุกอย่าง ภาวนาทุกอย่าง เพื่อให้หนูและยายพ้นขีดอันตรายโดยเร็ว หายเจ็บหายปวดโดยเร็ว ตลอดนะลูกสภาพจิตใจของพ่อกับแม่ตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ หวังให้เจ้าพ้นขีดอันตรายโดยเร็ว รีบกลับมาปกติโดยเร็ว พ่อนอนก็ไม่หลับ กินก็ไม่ได้”

“อัปเดตอาการตอนนี้ ลูกสาวผม ได้ถอดท่อช่วยหายใจออกตั้งแต่09.00น. ของเมื่อเช้า9เม.ย.65 น้องมีอาการรู้สึกตัว ลืมตาได้ ดิ้นได้ ร้องไห้ได้ ต้องอยู่ในการเฝ้าสังเกตุของหมอและพยาบาลเป็นระยะ ผมก็ได้แต่ภาวนาให้ดีขึ้นกว่านี้ อยากให้เธอรู้สึกตัวอยากให้เธอตอบโต้มากกว่านี้ หมอก็บอกให้เฝ้ารอดูอาการ ผมก็ได้แต่คอยไปถามพยาบาลอยู่ตลอด ด้วยความเป็นห่วงและวิตกของผม”

“ส่วนแม่ยาย รู้สึกตัว ตอบโต้ได้ เฝ้ารอดูอาการเป็นระยะตลอดเวลาเช่นกันครับ ยังต้องรอตรวจเช็คต่างๆอีกครับ ตอนนี้ผมกับภรรยา กินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ ห่วงทั้งแม่ ห่วงทั้งลูก วิ่งหน้าวิ่งหลัง จนเบลอ สมองเบลอไปหมดแล้วครับด้วยความห่วงใยของคนเป็นพ่อแม่ ความรักที่มีต่อลูก เขายังเล็ก ยังต้องมาประสบเหตุการณ์หนักๆแบบนี้ ใครไม่เจอกับตนเอง จะไม่มีวันรู้หรอกหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่หรอกครับ ว่ามันแย่สุดๆแค่ไหนผมขอขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกๆความห่วงใยนะครับ”

“ข้อความผมอ่านไม่ทัน ตอบไม่ทันนะครับ แต่ต้องขอขอบคุณ ทุกๆความห่วงใยที่ให้ผมมา ตอนนี้ก็คิดภาวนาอยู่อย่างเดียว ขอให้ลูกสาวและแม่ยายหายเจ็บหายปวดโดยเร็วกราบขอบคุณทุกๆกำลังใจนะครับ เฝ้าลูกที่โรงบาลเป็นวันที่2”