ต่างชาติเที่ยวไทย 4.4 แสนคน เงินสะพัด 3.4 หมื่นล้าน

ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศของไทย ซึ่งกลับมาเปิดระบบการลงทะเบียนไทยแลนด์พาส รูปแบบ Test & Go อีกครั้ง หลังระงับไปช่วงวันที่ 22 ธันวาคม 2564-31 มกราคม 2565 รวมทั้งการปรับเงื่อนไขการเข้าประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ 1.อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสเดินทางเข้าไทยได้ในรูปแบบ Test & Go และตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง แทนมาตรการเดิมที่กำหนดให้เฉพาะ 63 ประเทศ/ดินแดน และตรวจหาเชื้อ 1 ครั้ง

2.ขยายพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในรูปแบบ Sandbox ไปยังเมืองยอดนิยมทางฝั่งภาคตะวันออก คือ พัทยา เกาะช้าง และอนุญาตให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่ จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.สุราษฎร์ธานี คือ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า

ขณะเดียวกัน หลายประเทศในยุโรปได้ปรับยุทธศาสตร์รับมือการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่ลดวันกักตัวหลังมาเที่ยวไทย เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม รวมทั้งเปิดเที่ยวบินใหม่มาไทยอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยดังกล่าวส่งเสริมบรรยากาศการเดินทางเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาสแรก โดยภูมิภาคยุโรป มีนักท่องเที่ยวมาไทยสูงสุดคือ  265,888 คน ขยายตัว 2,596% สร้างรายได้ 21,894 ล้านบาท ขยายตัว 1,775%

ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออก รวมเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและอาเซียน คาดว่ามีนักท่องเที่ยว 85,362 คน ขยายตัว 1,538% สร้างรายได้ 4,674 ล้านบาท ขยายตัว 892%

ส่วนปัจจัยที่เป็นอุปสรรคคือความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนชะลอการเดินทาง

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 อันดับแรกในช่วงไตรมาสแรก ประกอบด้วย 1. รัสเซีย 51,360 คน 2.เยอรมนี 38,359 คน 3.สหราชอาณาจักร 31,712 คน 4.ฝรั่งเศส 29,855 คน 5.สหรัฐ 25,315 คน 6.จีน 15,410 คน 7.สวีเดน 14,269 คน 8.ออสเตรเลีย 13,799 คน 9.อิสราเอล 11,681 คน และ 10.อินเดีย 9,080 คน

ส่วนช่วงไตรมาสสอง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 341,340 คน เพิ่มขึ้น 1,584% สร้างรายได้ 23,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 983%

ผู้ว่าการ ททท. ระบุว่า ประเด็นสำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของนักท่องเที่ยว คือ  1.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวรัสเซีย และการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวเข้าไทยของนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป รวมทั้งอาจส่งผลให้เกิดวิกฤติน้ำมันและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก 2.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 กลายพันธุ์ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ อาจทำให้มีการกลับมายกระดับมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศเข้มงวดขึ้น

และ 3.ประเทศคู่แข่งขันสำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกใต้ เช่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้ ปรับมาตรการเข้าประเทศให้มีความเข้มงวดน้อยลง เพื่อชิงส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ