5 เมษายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีการตั้งเป้าได้จำนวน ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 150 เสียง พร้อมระบุว่า ส่วนตัวพูดเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขออย่าถามย้ำอีก ส่วน ส.ก. ไปช่วยไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกฎหมายห้าม
ทั้งนี้ พล.อ. ประวิตร ไม่ได้ตอบว่าจะมีการเพิ่มกลยุทธ์อะไรในการหาเสียง หลังมีข่าวตั้ง น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นประธานยุทธศาสตร์หาเสียง ส.ก. โดยย้ำว่า ไม่สามารถตั้งได้ เพราะ น.ส. นฤมล มีตำแหน่งทางการเมือง คือ เป็นกรรมการบริหารพรรค และคำสั่งดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้ว
ส่วนกรณีที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่ได้มีการบอกกล่าว หรือคุยกัน เพราะไม่ได้เจอกันเลย
เมื่อถามเหตุผลที่ทำให้พล.อ.ประวิตร อารมณ์ดีในช่วงนี้ เพราะมีข่าวดีอะไรหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตนเองอารมณ์ดีตลอด มีแต่ผู้สื่อข่าวถามให้อารมณ์ไม่ดี พร้อมเปิดเผยว่า มีคนจะมาร่วมงานกับพรรคจำนวนมาก และยังได้ปฏิเสธว่า ไม่มี ส.ส.ในพรรคจะลาออก หลังมีการตั้งพรรคใหม่ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกัน และการที่นายพีระพันธ์ุลาออกจะเป็นการส่งสัญญาณว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแยกไปอยู่พรรคอื่นหรือไม่ ตนไม่รู้ ต้องไปถามเอง
ส่วนกรณีที่รับนายทหารเข้ามานั่งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป็นการเสริมทัพเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จากนี้ไม่มีเสริมทัพเพิ่มเติมแล้ว เพราะแค่นี้ก็แข็งโป๊ก
เมื่อถามต่อว่าการนำนายทหาร ทั้งสองคนมุ่งเป้า ไปยังพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า เป็นประชาชนทั่วไป เพราะเกษียณอายุแล้ว ไม่เช่นนั้นตนเองก็เป็นทหารตลอดชาติ ขณะที่ความรู้ความสามารถนั้น จะเป็นการดึงมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า ให้เข้ามาช่วยในเรื่องของธุรการ
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังระบุถึงการลงพื้นที่ ว่า มีเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างดีมาโดยตลอด ไปที่ไหนเคยเห็นมีใครมาด่า พร้อมถามกับสื่อว่า รัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ ยังได้รับคะแนนนิยมอยู่หรือไม่ เพราะถ้าถามตน ก็ต้องเอาตัวเองเป็นหลัก และขอให้ดูผลงานด้วย
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง กรณีที่มีข่าวกองทัพเรือและจีนหารือร่วมกัน หลังจากที่เยอรมันไม่ขายเครื่องยนต์ใส่เรือดำน้ำให้ ตามที่ไทยได้สั่งนั้น โดยยืนยันว่า มีเครื่องยนต์ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร