ช่วงบ่ายถึงค่ำที่ผ่านมา (31 มี.ค.65) ได้เกิด "พายุฤดูร้อน" พัดถล่มในในพื้นที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ และ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยเกิดฝนตกอย่างหนัก และลมกรรโชกแรง ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านของกำนันตำบลทุ่งมหาเจริญ หมู่ที่ 13 บ้านพังและหลังคาเปิดออกไปทั้งหลัง ส่วนบ้านของชาวบ้านอีกจำนวนหลาย 10 หลังคาเรือน ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
รวมทั้งเกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านคลองตะเคียนชัย บริเวณหน้าวัดล้มทับรถยนต์ ขณะวิ่งบนถนน 1 คัน ตัดขาดเส้นทางสัญจรระยะหนึ่ง เจ้าหน้าที่ต้องระดมเครื่องมือเข้าติดกิ่งไม้ที่กีดขวางออก ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะสามารถเปิดเส้นทางการจราจรได้ 1 ช่องทาง
ทั้งนี้ นายสมบัติ เจิมขุนทน กำนัน จ.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มในพื้นที่ ทำให้บ้านเรือนราษฎร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสำรวจ นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่า หลายตำบลก็ถูกพายุพัดถล่ม จนทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งในรอบ 20 ปีมานี้ ไม่เคยพบไม่เคยแบบนี้มาก่อนเลย
ขณะที่ นายอำนาจ พิพิธกุล นายก อบต.ตาหลังใน กล่าวว่า ตำบลตาหลังใน ได้เกิดความเสียหายเช่นกัน หลังคาบ้านเรือนของประชาชนหลายหลัง ได้ถูก "พายุฤดูร้อน" พัดเสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้รายงานเหตุวาตภัยในครั้งนี้ ไปยังนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อรับทราบแล้ว ส่วนบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน อยู่ในระหว่างขั้นตอนการสำรวจ
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากในพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่ถูกพายุพัดถล่มจนบ้านเรือนได้รับความเสียหายแล้ว ขณะเดียวกันในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ถูกลม "พายุฤดูร้อน" พัดกระหน่ำ จนทำให้บ้านเรือน และโรงเรียน ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะโรงเรียนวัดกางหลง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้ถูกพายุฝนพัดถล่มเสียหายอย่างหนัก ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า คณะครูของโรงเรียน ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต่างช่วยกันเก็บข้าวของ และเอกสารสำคัญต่างๆ ที่ถูกลมพายุพัดถล่ม เข้าไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย หลังจากอาคารเรียนถูกแรงลมพัดกระหน่ำ ทำให้หลังคา และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในโรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
จากการสอบถาม นางสาว ปวีณา เชื้อหงษ์ ครูโรงเรียนวัดกาหลง เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังพักอยู่ภายในบ้าน ซึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ 10 กิโลเมตร ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก มีทั้งลมและฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ไม่นานนักได้มีโทรศัพท์จากผู้ปกครองโทรมาแจ้งว่า ที่โรงเรียนถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย หลังคาปลิวว่อน จึงรีบขับรถมาที่โรงเรียน เพื่อมาตรวจสอบ ซึ่งระหว่างทางก็เจอพายุพัดเข้าถล่ม จนทำให้ต้นไม้หักโค่นตลอดทาง
ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงโรงเรียน พบว่า อาคารเรียนทั้งสองหลัง ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์ทางการศึกษา คอมพิวเตอร์ หนังสือเรียน ไม่เว้นแม้แต่อาคารเรียน ก็ได้รับความเสียหาย ตนเองพยามเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ และเอกสารที่จำเป็น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะในขณะนั้น ทั้งลมและฟ้าแรงมาก จนต้องรอให้พายุสงบ จึงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัด สพฐ. และเขตการศึกษาแล้ว
ทางด้าน นายฐิติภู สว่างแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม. 9 ต.เปร็ง ระบุว่า หลังได้รับรายงานจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็รีบเดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นได้ประสานงานไปยังอำเภอ และ อบต. ให้เข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจากการสำรวจ นอกจากโรงเรียนแห่งนี้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว ยังมีหลังคาวัดกางหลง และบ้านเรือนของประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวด้วยเช่นกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกสำรวจความเสียหายในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม พายุดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็น "พายุฤดูร้อน" ประกอบกับได้รับแจ้งจากทางกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งได้มีการระบุว่า นับจากนี้ไปในช่วง 1-3 วันนี้ ประเทศไทย จะเกิดพายุในหลายพื้นที่ เนื่องจากเป็นผลมาจากอิทธิพลมงลอากาศความเย็นจากประเทศจีน ที่ได้เคลื่อนตัวมาจากทางภาคเหนือตอนบน ประกอบกับในทะเลฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มีการก่อตัวของพายุด้วย ซึ่งลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ประเทศไทย เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกรรโชกแรง ได้ในหลายพื้นที่