svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทำความรู้จักโรคอะเฟเซีย ที่ส่งผลให้ "บรูซ วิลลิส" ต้องอำลาวงการ

31 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นประเด็นใหญ่หลังมีกระแส “บรูซ วิลลิส” นักแสดงพลังอึด อีกตำนานจากภาพยนตร์แนวบู๊ของฮอลลีวูด ประกาศอำลาวงการ ทำเอาแฟนๆ ช็อกไปตาม ๆกัน วินาทีนี้ทั้งโลกหันมาให้ความสนใจทันทีว่า โรคอะเฟเซีย (Aphasia) ที่เขาเป็นอยู่ และเป็นสาเหตุให้ต้องยุติงานแสดง อ่านได้ ตรงนี้มีคำตอบ

อะเฟเซีย (Aphasia)  หรือ ภาวะเสียการสื่อความ หมายถึง ความผิดปกติทางภาษาที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทโดยมีพยาธิสภาพในสมอง ภาวะเสียการสื่อความจะมีความผิดปกติของความเข้าใจและการใช้ภาษา มักมีความผิดปกติในความสามารถทางภาษาทุกด้าน คือ ความผิดปกติในการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยอาจมีความรุนแรงในแต่ละทักษะไม่เท่ากัน

 

ผู้ป่วยอาจมีความลำบากในการฟังเข้าใจ คำพูด วลีและประโยค มีความลำบากในการนึกหาคำศัพท์หรือคำพูดที่ถูกต้อง เช่น ชื่อคน สถานที่สิ่งของ ทำให้พูดผิดหรือใช้คำอื่นมาแทน โดยอาจเป็นคำหรือเสียงใหม่ในภาษา

 

มีความลำบากในการจำคำพูด ทำให้ไม่สามารถเข้าใจคำพูด และการตอบสนองอาจผิดพลาดความผิดปกติของไวยากรณ์ในภาษาทำให้การเรียงลำดับและการจัดรูปประโยคผิดได้ หรือพูดคำที่ไม่มีความหมายเลย มีความผิดปกติในการใช้ภาษา ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน พูดลำบาก พูดได้ช้า พูดเป็นประโยคสั้น ๆ เป็นภาษาโทรเลข

 

อ้างอิงจากข้อมูลจากสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของสหราชอาณาจักร ภาวะสูญเสียการสื่อความ มักมีสาเหตุจากความเสียหายในสมองซีกซ้าย ทำให้นึกภาษาหรือคำพูดได้ลำบาก กระทบต่อการ อ่าน, ฟัง, พูด, พิมพ์ หรือเขียน ของผู้ป่วย โดยอาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ปัญหาทางการพูด รวมถึงการประสมคำไม่ถูกต้อง

 

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย ได้สรุป อาการของผู้มีภาวะสูญเสียการสื่อความ เอาไว้ ดังนี้

  • พูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้แม้กระทั่งการใช้ภาษากาย
  • ฟังคำพูดไม่เข้าใจ ตอบไม่ตรงคำถาม
  • พูดไม่ชัด
  • การนึกคำพูดลำบาก
  • บอกความต้องการไม่ได้ บอกชื่อสิ่งของที่ใช้ไม่ได้ ลืมชื่อคนในครอบครัว
  • ทำตามคำสั่งไม่ได้
  • พูดตามไม่ได้
  • มีความลำบากในการเคลื่อนไหวอวัยวะในการพูด ปาก ลิ้น ขากรรไกร
  • สาเหตุของโรค
  • ภาวะบกพร่องทางการสื่อความ เป็นความผิดปกติทางการสื่อสาร ซึ่งมักเป็นผลมาจากสมองได้รับความเสียหายจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือการได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติในด้านทักษะของการสื่อสารและการใช้ภาษา ไม่สามารถโต้ตอบหรือทำความเข้าใจได้ และอาจมีปัญหาทางด้านการอ่านและการเขียนร่วมด้วย
  • การที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการใช้ภาษาได้รับความเสียหาย ทำให้การลำเลียงเลือดเข้าสู่ในบริเวณดังกล่าวถูกขัดขวางจนทำให้เนื้อสมองตายในที่สุด ซึ่งภาวะ Aphasia อาจเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหันหลังเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ภาวะสมองขาดเลือด การได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะหรือการเข้ารับการผ่าตัดสมอง นอกจากนี้ ในบางรายอาการอาจจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ โดยสาเหตุอาจมาจากเนื้องอก การติดเชื้อในสมอง โรคทางระบบประสาท หรือภาวะเสื่อมถอยของสมองอย่างโรคสมองเสื่อม เป็นต้น
  • อย่างไรก็ตาม ภาวะ Aphasia มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกมากที่สุด ส่วนภาวะ Aphasia แบบชั่วคราวมักมีสาเหตุมาจากอาการไมเกรน อาการชัก หรือภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (TIA) ซึ่งเป็นภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกหรือโรคหลอดเลือดสมองได้ในอนาคต

 

อะเฟเซีย (Aphasia)  หรือ ภาวะเสียการสื่อความ 

แนวทางการรักษา

แพทย์จะรักษาภาวะ Aphasia ด้วยวิธีการบำบัดทางการพูดและภาษาเป็นหลัก เพื่อฟื้นฟูความสามารถด้านการใช้ภาษาและเสริมทักษะการสื่อสาร โดยผู้ป่วยจะได้รับการประเมินสุขภาพทั่วไป ระดับความผิดปกติของการใช้ภาษา และทักษะทางสังคมก่อนเข้ารับการบำบัดจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

ทำความรู้จักโรคอะเฟเซีย ที่ส่งผลให้ "บรูซ วิลลิส" ต้องอำลาวงการ

การบำบัดดังกล่าวมีทั้งการบำบัดกับผู้เชี่ยวชาญ การทำกลุ่มบำบัด และการทำครอบครัวบำบัด โดยในขั้นตอนของการบำบัด แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะฝึกหรือทบทวนการใช้คำ ใช้ประโยคที่ถูกต้อง การพูดทวน และการถามตอบที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วย รวมทั้งมีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้คำศัพท์และเสียงของคำต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร เข้าร่วมบทสนทนา สื่อสารได้เมื่อถึงเวลาของตนเอง เข้าใจในข้อผิดพลาดทางการใช้คำและแก้ไขบทสนทนาที่ผิดพลาดนั้นได้

 

โดยทั่วไป อาการของผู้ป่วยจะค่อย ๆ ได้ผลดีขึ้นหลังทำการบำบัดติดต่อกัน แต่บางรายอาจใช้เวลานานกว่าปกติในการบำบัด โดยจากการศึกษาพบว่าการบำบัดจะได้ผลที่ดีที่สุดเมื่อเริ่มทันทีหลังจากที่ร่างกายและสมองเริ่มฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนอยู่ในอาการที่ปลอดภัย

 

มีวิธีการป้องกันหรือไม่

สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อสมองและดูแลสุขภาพของสมองด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีโซเดียมและไขมันต่ำ
  • งดการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสมและเท่าที่จำเป็น
  • ควบคุมระดับความดันโลหิตและไขมันในเลือด
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนโลหิต ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

 

ทำความรู้จักโรคอะเฟเซีย ที่ส่งผลให้ \"บรูซ วิลลิส\" ต้องอำลาวงการ

"บรูซ วิลลิส"

อีกความคืบหน้า "บรูซ วิลลิส" นักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการฮอลลีวูด วัย 67 ปี และ "เอ็มมา เฮมมิง-วิลลิส" ภรรยา และ "เดมี มัวร์" อดีตภรรยา ออกแถลงการณ์ร่วมผ่านอินสตาแกรมในวันพุธที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องที่สุดยอดนักแสดงอย่างป๋า "บรูซ วิลลิส" กำลังป่วยเป็นโรค "อะเฟเซีย" (Aphasia) หรือภาวะเสียการสื่อความ และการตัดสินใจอำลาอาชีพนักแสดง 

 

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า

“สำหรับแฟน ๆ ของ บรูซ เราในฐานะครอบครัวอยากจะแจ้งข่าวว่าขณะนี้ บรูซ กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และเพิ่งจะตรวจพบว่าเขามีภาวะอะเฟเซีย ซึ่งจะมีผลต่อกลไกทางการรับรู้ 

 

ด้วยผลของโรค บรูซ ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ว่า เขาจำเป็นต้องยุติบทบาทอาชีพนักแสดง ซึ่งมีความหมายต่อเขามากเหลือเกิน
โดยอะเฟเซีย เป็นภาวะสมองเสียหาย ที่จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการสื่อสารทั้งการพูด เขียน และทำความเข้าใจในภาษาต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบกับการทำงานแสดงโดยตรง ซึ่งอาการดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยมีภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือ ศีรษะได้รับความ กระทบกระเทือนอย่างรุนแรง"

 

“หลังจากนี้พวกเราคงต้องเจอเรื่องท้าทายอีกมากมาย และพวกเราต่างได้รับทราบถึงความรักความหวังดีและกำลังใจจากทุกคน เราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งพร้อมกันเป็นครอบครัว และอยากจะให้แฟน ๆ ของเขาได้รับทราบเรื่องนี้ด้วย เรารู้ดีว่าทุกคนมีความหมายกับเขามาก อย่างที่ บรูซ มักจะพูดว่า 'มีความสุขไปด้วยกันเถิด' เสมอ”

 

 

 

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก : เว็บไซต์สภากาชาด และ เว็บไซต์พบแพทย์

 

 

logoline