svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พรรคกล้า"เปิดตัว 12 ผู้ท้าชิงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

30 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กรณ์-อรรถวิชช์"เปิดตัวทีมผู้สมัคร ส.ก.  12 คน พร้อมชู 10 นโยบาย ยกระดับ กทม. เป็น "เมืองสู้วิกฤต มหานครแห่งโอกาส" แซว "อัศวิน" ใช้สีป้ายเหมือนพรรค เพราะคงชอบพรรคกล้า

30 มีนาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค เปิดตัวผู้สมัครพรรคกล้า 12 คน ในคอนเซ็ปต์ "ผูกพันใส่ใจ แก้ไขปากท้อง" พร้อมสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพ หรือ ส.ก. ในวันพรุ่งนี้

 

"พรรคกล้า"เปิดตัว 12 ผู้ท้าชิงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

 

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า จุดแข็งของพรรคกล้า คือ ประสบการณ์ คุณสมบัติ และความตั้งใจของผู้สมัคร แม้ส่งไม่ครบ 50 เขต แต่พรรคเลือกผู้สมัครที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วจริงจัง ในการทำงานช่วยเหลือประชาชน ส่วนตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เห็นคนเก่งหลายคน แต่ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ประเด็นความเดือดร้อนที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิด คือวิกฤตเศรษฐกิจ มิตินี้ยังไม่มี ซึ่งความตั้งใจของพรรคกล้าตามที่นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ที่ได้นำเสนอไปเป็นตัวอย่าง เสริมเติมให้เต็มในแง่มุมของมิติปากท้อง เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคกล้าอยู่แล้ว

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ผู้สมัครของพรรคทั้ง 12 คน เป็นผู้สมัครที่เกาะติดพื้นที่ ส่วนใหญ่มีประสบการณ์เป็นประธานสภาเขต อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมานาน โดยเฉพาะช่วงการระบาดโรคโควิด-19 ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 12 คน ทำงานอาสา ช่วยเหลือทั้งช่วยหาเตียง ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เป็นอาสาสมัครส่งยาให้ถึงบ้าน ดูแลทุกอย่างที่ประชาชนเดือดร้อนตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับการก่อตั้งพรรคกล้า เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงในพื้นที่

 

ขณะที่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า งบประมาณกรุงเทพมหานครอยู่ราวปีละ 80,000 ล้านบาท  โดยการจัดเก็บของกรุงเทพมหานครเอง สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันภายใต้คอนเซ็ปต์ "ยกระดับกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองสู้วิกฤต เป็นมหานครแห่งโอกาส" ผ่าน 10 นโยบาย ที่ ส.ก. จะต้องผลักดัน คือ

 

"พรรคกล้า"เปิดตัว 12 ผู้ท้าชิงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

 

1."กล้าปลดหนี้" โดยสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นอกจากจะอำนวยเรื่องสถานที่ให้พ่อค้าแม่ค้าแล้ว อยากให้เข้าไปดูแลเกี่ยวกับแหล่งเงินทุน ไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าถูกเอารัดเอาเปรียบจากหนี้นอกระบบ มีช่องทางแนะนำไฟแนนซ์ นำหนี้กลับเข้ามาอยู่ในระบบ

 

2."กรุงเทพเน็ตฟรี" การเรียนการสอน การขายออนไลน์ สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย

 

3."Bangkok Friendly Design" เด็ก คนพิการ คนชรา เที่ยวสะดวก คนต่างชาติเข้าใจง่าย ดีไซน์ต่าง ๆ ของเมืองหลวงต้องเหมาะกับคนทุกกลุ่ม

4."ชุมชนเข้มแข็ง" ให้อาสาคณะกรรมการชุมชนมีรายได้ประจำ งบประมาณโครงการพัฒนาชุมชนเป็นรายปี

 

5."รถไฟฟ้า 30 บาท รถเมล์ EV" ทั้งระบบ ช่วยลดค่าครองชีพคนเมือง ด้วยการเข้าไปอุดหนุนส่วนต่างให้รถไฟฟ้าราคา 30 บาท รวมถึงการปรับระบบรถเมล์ให้ใช้ไฟฟ้าทั้งระบบ

 

6."สำนักงานเขต Online" ปรับปรุงระบบราชการเป็นแบบ One Click Government ให้การติดต่อ ร้องเรียน ขอใบอนุญาตต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้

 

"พรรคกล้า"เปิดตัว 12 ผู้ท้าชิงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

 

7."กล้องพร้อม ไฟพร้อม" ในพื้นที่ที่เป็นเอกชนก็ต้องติดตั้งได้ หากมีการร้องขอจากประชาชน มีระบบจดจำใบหน้า Face Recognition

 

8."น้ำท่วมระบายใน 30 นาที" ให้สำเร็จตามแผนพัฒนา กทม. 20 ปี แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะ 14 จุดเสี่ยงน้ำท่วมประจำ ควบคุมการระบายน้ำด้วย AI ผันน้ำอย่างเป็นระบบ ลงแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน รองรับน้ำรอระบายสู่ทะเล

 

9."ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ" สร้างเถ้าแก่ยุคใหม่ ใครจะคิดอยากเริ่มทำธุรกิจ การขออนุญาต เทคนิคธุรกิจต่าง ๆ ศูนย์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเริ่มต้นได้

 

10."หมอ Delivery" โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทั้ง 11 แห่ง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ศูนย์อนามัยทั้ง 50 เขต สามารถรักษาได้ 24 ชั่วโมง ด้วยการวินิจฉัยออนไลน์ ส่งยาได้ภายใน 24 ชั่วโมง รองรับวิกฤตโรคระบาด

 

"นโยบายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ ส.ก. พรรคกล้า จะเดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งบางอย่างก็ได้ลงมือทำไปแล้วหลายพื้นที่ และพร้อมยกมือผ่านงบประมาณให้กับโครงการ ที่สอดคล้องกับนโยบาย ย้ำว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของ กทม.​ ต้องถูกใช้อย่างคุ้มค่า ไม่เป็นเบี้ยหัวแตกอีกต่อไป"เลขาธิการพรรคกล้า กล่าว

 

ส่วนกรณีที่ป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีสีคล้ายกับพรรคนั้น นายกรณ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน มีผลงานจับต้องอยู่ไม่น้อย แต่พรรคไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ การที่ผู้ว่าฯใช้โทนสีพรรคกล้า ก็อาจเป็นเพราะชื่นชมแนวทางพรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องไปถามพล.ต.อ.อัศวิน ส่วนพรรคกล้าและผู้สมัคร ยืนยันว่านโยบายทั้ง 10 ข้อ และความตั้งใจในการเข้าไปปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน การใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เป็นความตั้งใจที่เรามีความพร้อมในการผลักดันและให้ความร่วมมือกับผู้สมัครท่านใดก็ได้ ที่ชาวกรุงเทพตัดสินใจว่าจะเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เรายืนหยัดในสิ่งที่เราอยากจะทำ และพร้อมพร้อมทำงานกับใครก็ได้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ 

 

ส่วนผู้ว่าฯ กับ ส.ก.ไม่ได้มาจากพรรคเดียว จะทำให้การทำงานจะสะดุดหรือไม่นั้น ขอย้ำว่าในความชัดเจนของพรรคและผู้สมัครของพรรค เข้าไปเพื่อที่จะผลักดันเรื่องอะไร มันเป็นความเชื่อมั่น ที่ประชาชนเลือกพรรค ถ้าเชื่อในตัวผู้สมัครกับพรรค และเห็นตรงกัน ว่าชาวกรุงเทพควรมีสวัสดิการและการดูแลด้านต่างๆ 10 ด้าน พรรคเข้าไปจะเป็นพลังขับเคลื่อนดูแลนอกเหนือจากตัวเลือกผู้ว่าฯ ที่เลือกไปแล้ว และกรณีผู้ว่าฯที่ได้รับเลือก ไม่ได้เป็นผู้ว่าที่ประชาชนอาจจะเลือกเข้าไป อย่างน้อยจะมีความมั่นใจว่า ส.ก. ที่มีอยู่ในมือ 12 คน จากพรรคกล้า จะเข้าไปผลักดันในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเขาให้เขาต่อไป

 

"ขอฝากทิ้งท้ายอีกครั้ง พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพ ที่เตรียมตัวจะออกไปเลือกผู้ว่าฯ ขอฝากไว้ว่า ส.ก. มีความสำคัญ อย่างมากในการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวกรุงเทพ เลือก ส.ก. ที่มีความผูกพันกับพื้นที่ เลือก ส.ก. ที่มีประสบการณ์และมีความชัดเจนในประเด็นนโยบายที่จะเข้าไปผลักดันใน กทม. เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กับการเลือกผู้ว่าฯ ขอให้สนับสนุนผู้สมัคร 12 คนของพรรคกล้าที่เราคัดมาให้ท่าน เป็น ส.ก. ในเขตของท่านต่อไป" หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว

logoline