ภายหลังพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 และ กก.6 บก.ป. กว่า 50 นาย เข้ารวมตัวนายจำรัส รักจันทร์และสมุนได้ที่แมนชั่นย่านรามคำแหง ได้วานนี้(25 มี.ค.65)
ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายจำรัส รักจันทร์ หรือฉุย เขาจันทร์ คนร้ายยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมนายอัฐพล ใหม่อ่อน หรือรวย และนางสาวน้ำ แฟนสาวของนายฉุย รวม3 คน เข้าสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง โดยมี พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ท.เกล้า พลนุ้ย สารวัตรสอบสวน สภ.เขาชัยสน พร้อมด้วยทนายความ ร่วมสอบปากคำ ที่ห้องประชุม ภ.จว.พัทลุง มีพ่อ แม่ และพี่สาวของนายรวยมารอพบหน้า แต่ไม่มีญาตินายฉุยแต่อย่างใด การสอบสวนดำเนินการไปประมาณ 2 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายฉุยและนายรวยไปชี้จุดที่ทิ้งอาวุธปืนก่อนหลบหนี โดยให้นายรวยเป็นคนชี้จุดที่ซ่อนปืนในพงหญ้าใต้ต้นมะม่วง เพราะเป็นปืนกระบอกที่นายรวยถือในวันเกิดเหตุ จึงยึดอาวุธปืน .357 ได้อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนเต็มแม็ค
นายฉุยและนายรวย เป็นคนร้าย 2 คนสุดท้ายที่ถูกจับกุม หลังร่วมกันยิงถล่มรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย ส่วนนายวัชระ รัตนสุวรรณ 1 ใน 5 คนร้าย ถูกวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกท่านางพรหม ม.6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ก่อนหน้านี้มีนายพงศกร สุวรรมะโณ หรือเจ อายุ 22 ปี และนายเกรียงไกร ไชยพูล หรือหนึ่ง อายุ 27 ปี เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคนร้ายทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนางสาวน้ำ อายุ 17 ปีแฟนสาวนายฉุย การสอบสวนในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีหมายจับและอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในชั้นนี้ยังไม่ได้ดำเนินคดีใดๆกับ น.ส.น้ำ ซึ่งนางสาวน้ำ บอกว่าหลังข้าไปหลบซ่อนในป่า จากแรงกดดันทำให้นายฉุยติดต่อเพื่อนนำรถเก๋งมารับออกเดินทางไป กทม.เมื่อวันที่ 21 มีนาคม โดยไม่ระบุว่าไปกันกี่คน และเพื่อนเป็นใคร
ทางด้านนางวันเพ็ญ ใหม่อ่อน อายุ 48 ปี แม่ของนายรวย บอกว่าเมื่อทราบว่าลูกถูกจับก็ดีใจเพราะไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีก ขอให้ลูกชายรับสารภาพโทษหนักจะได้เป็นเบา ติดคุกนานเท่าไหร่แม่รอได้ เจอลูกครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 มีนาคมก่อนเกิดเหตุ 2 วัน เมื่อตนรู้ว่าลูกชายหลบหนีอยู่ในป่า ตนเป็นห่วงมากนอนไม่หลับ โดยเฉพาะตอนฝนตกกลัวลูกจะถูกฝน ทำให้เป็นห่วงหนักขึ้น แต่พอรู้ว่าไปกบดานและถูกจับที่ กทม.ก็สบายใจขึ้นบ้างอย่างน้อยมีที่อยู่แบบสบาย ไม่ต้องหลบฝน
เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวนายรวยไปชี้จุด พี่สาวและแม่โผเข้ากอดร้องไห้ทั้ง 3 คน ส่วนพ่อเมื่อเห็นลูกชายไม่ใส่รองเท้า จึงได้ถอดรองเท้าของตนไปส่งให้ลูกชาย ซึ่งยังมีผ้าพันแผลที่ข้อมือด้วย
ภาพ/ข่าว : ลัดดา มณีรัตน์ สำนักข่าวเนชั่น จ.พัทลุง