โดยนายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และออนไลน์ ว่า “การต่อสู้กับโรคโควิด-19 เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ และเราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับมัน”
มาตรการจัดการความปลอดภัยใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันอังคาร (29 มี.ค.) ครอบคลุมการขยายการรวมกลุ่มของประชาชนจาก 5 คน เป็น 10 คน และความจุสูงสุดของการเข้าร่วมกิจกรรมและสถานที่ต่างๆ พร้อมอนุญาตพนักงานกลับไปทำงานที่สำนักงานสูงถึงร้อยละ 75 และยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่กลางแจ้ง
เนื่องจากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน “อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว” สิงคโปร์จึงสามารถผ่อนปรนการเดินทางข้ามพรมแดน โดยปรับปรุงข้อกำหนดตรวจโรคและกักตัว รวมถึงยกเลิก “ข้อจำกัดส่วนใหญ่สำหรับผู้เดินทางเข้าสิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว”
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะกระตุ้นภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และช่วยสิงคโปร์กลับคืนสู่ตำแหน่งศูนย์กลางธุรกิจและการบิน ทว่าสิงคโปร์จะยังใช้ “แนวทางที่รอบคอบ” ที่ใช้มานานกว่า 2 ปี และพิจารณาการผ่อนปรนข้อจำกัดเพิ่มเติมหากสถานการณ์ทรงตัว เพื่อป้องกันยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงอีกครั้ง