วันนี้ (24 มี.ค.) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเข้าจับกุม นายวิกรานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี “ฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 63 ที่บริเวณสำนักงานให้เช่าแห่งหนึ่ง ย่านถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหา สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณ ปี 62 ผู้ต้องหาอ้างตนเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการผู้จัดการบริษัทร้านเพชรชื่อดัง สร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเองเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม และใช้โปรไฟล์หลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการร้านเพชร โดยจะให้ผลตอบแทน 5 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 10 วัน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงร่วมลงทุนด้วยเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
ต่อมาผู้ต้องหาไม่สามารถนำผลตอบแทนมาให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันได้ และเมื่อผู้เสียหายติดตามไปดูที่ร้านเพชรที่ถูกอ้าง ปรากฏว่าร้านเพชรดังกล่าวได้ปิดไปแล้วหลายปี จึงทราบว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย โดยจากการตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติคดีเช็ค, ยักยอก, ฉ้อโกง รวม 13 คดี ตั้งแต่ปี 52
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนกระทั่งพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่บริเวณสำนักงานให้เช่าย่าน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 เวลาประมาณ 16.30 น. และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังจากที่ ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ปทส. เข้าจับกุม เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะดังกล่าว รวมไปถึงการลงทุนร้านเครื่องประดับ การลงทุนที่ดิน และการลงทุนโควตาลอตเตอรี่ ซึ่งมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงและยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัย ประชาชนอย่าหลงเชื่อในการกระทำดังกล่าว และหากพบผู้กระทำความผิดก่อเหตุในลักษณะนี้ โปรดแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป