รัสเซียเสียขวัญ รมต.กลาโหมหาย ทหารตาย-หาย 40,000
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ได้ประเมินว่าจำนวนทหารรัสเซียที่ถูกสังหาร บาดเจ็บ หรือสูญหายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่ยูเครนมากถึง 40,000 นาย ท่ามกลางรายงานว่ารัฐมนตรีกลาโหมหายหน้าไป 12 วันแล้ว
NBC News รายงานอ้างการยืนยันของเจ้าหน้าที่นาโตที่ตั้งเงื่อนไขไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อแลกกับการให้ข้อมูลการประเมินด้านข่าวกรองของสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ว่าเชื่อว่าทหารรัสเซียเสียชีวิตในสงครามจำนวนระหว่าง 7,000 - 15,000 นาย ขณะที่รัสเซียปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขการสูญเสียทหาร และนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่าการเปิดเผยตัวเลขเป็น "สิทธิพิเศษเฉพาะ" ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ได้บ่ายเบี่ยงที่จะยืนยันรายงานการประเมินตัวเลขความสูญเสียของทหารรัสเซีย ทั้งที่เสียชีวิตและสูญหายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ (MIA) เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะประเมินตัวเลขที่แท้จริง เพราะสหรัฐฯ ไม่มีทหารในยูเครนแต่ก็มีข้อมูลข่าวกรองที่บ่งชี้ว่าทหารรัสเซียถูกรุมเร้าด้วยปัญหาโลจิสติกส์ ระบบการบังคับบัญชา ตลอดจนขวัญและกำลังใจ ซึ่งบางคนต้องออกจากสนามรบจริงเพราะอาการบาดเจ็บจากเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะความเย็นจัด แต่บางคนสูญเสียขวัญและกำลังใจถึงขั้นทิ้งรถหุ้มเกราะแล้วเดินเข้าป่า
เรื่องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวที่ว่า เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมวัย 66 ปี ได้หายหน้าไป 12 วันแล้ว โดยปรากฎตัวครั้งสุดท้ายเมื่อ 11 มีนาคม ซึ่งคนใกล้ชิดระบุว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ แต่สื่อตะวันตกกระพือข่าวว่า ปูตินกำลัง "ล่าแม่มด" ในหมู่คนวงในใกล้ชิด หลังแผนการรบรั่วไปถึงสหรัฐฯ กับอังกฤษ และในจำนวนผู้ต้องสงสัยได้รวมถึงชอยกูที่รับผิดชอบโดยตรงต่อปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ที่ส่งผลให้ทหารเอาชีวิตไปทิ้งมากกว่า 10,000 นาย และทำให้เกิดการตายของพลเรือนอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องรูปถ่ายของเซเนีย ลูกสาววัย 31 ปี ของเขา กำลังอุ้มลูก ที่เสื้อผ้าและองค์ประกอบในภาพ ถูกมองว่าสื่อถึงสีธงชาติของยูเครน คือ ฟ้า-เหลือง แต่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม เว็บไซต์ของทำเนียบเครมลินเพิ่งจะเอ่ยถึงเขาว่า เขากับปูตินได้หารือกันเกี่ยวกับความคืบหน้าของ "ปฏิบัติการพิเศษในยูเครน" กับบรรดาประเทศสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ไม่มีคลิปวิดีโอหรือภาพถ่ายยืนยัน ซึ่งในวันเดียวกันก็มีรายงานว่าเขาไปมอบรางวัลที่งานพิธีแห่งหนึ่ง แต่กลับใช้รูปเดิมของข่าววันที่ 11 มีนาคม
ชอยกูได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งคนใกล้ชิดและพันธมิตรภักดีต่อปูตินที่สุด แต่การทำสงครามในยูเครน ทำให้เกิดความเครียดขึ้นกับตัวเขา เหล่าผู้บัญชาการทหารและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง
