บุกโรงงานแปรรูปไม้เมืองตรัง ยึดไม้หวงห้ามนับพันท่อนมูลค่ามหาศาล

วันนี้ (11 มี.ค.65)  พ.ต.ท.เหมจักร บุนนาค รอง ผกก.สส. ภ.จว.เพชรบูรณ์ ปฎิบัติราชการเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) ร.ต.อ.จรัญ มาแก้ว ตำรวจ ศปทส.ตร. นายสมนึก กุนหลัด หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง ตำรวจ กก.5 และ 6 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันนำหมายค้นศาล จ.ตรัง เข้าตรวจค้นลานไม้แปรรูป หจก.โรงเลื่อยจักรปถวี สาขา 2 เลขที่ 113 หมู่ 1 ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง

หลังจากได้สืบทราบว่าลานไม้ดังกล่าว มีท่อนซุงและไม้แปรรูปหวงห้ามเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถแสดงเอกสารที่มาของไม้ได้ นอกเหนือจากไม้เศรษฐกิจ 13 ชนิดที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ 13 ชนิดตามมติคณะรัฐมนตรี ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายธนบดี นิลวงศ์ อายุ 48 ปี ผู้จัดการโรงงาน ซึ่งเป็นหลานชายของนายโชติ นิลวงศ์ เจ้าของกิจการ และ น.ส.กรรวี ขันท์ทอง เสมียนโรงงาน โดยที่เจ้าของกิจการไม่ปรากฏตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา

1.เป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการแปรรูปไม้ ไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการได้รับอนุญาต (แปรรูปไม้หวงห้าม)

2.มีไม้หวงห้ามท่อนซุงไว้ครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต 

3.มีไม้แปรรูปหวงห้ามไว้ครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
 

โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นมาเข้าตรวจสอบ พบว่ามีการขึ้นป้ายปิดโรงงานชั่วคราว เข้าไปบริเวณลานกว้าง พบมีไม้หวงห้ามประมาณ 10 ชนิด ซึ่งเป็นท่อนซุงกว่า 1 พันท่อน เช่น ไม้ตะกูหลวง ไม้ขนุนปาน ไม้ยางนา เป็นต้น ซึ่งมีขนาดความยาวท่อนละประมาณ 1-2 เมตร ถูกวางเรียงรายปะปนอยู่กับไม้ชนิดอื่นๆ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการคัดแยกไม้ของกลางพร้อมทั้งทำการตรวจยึดอายัดเพื่อนำไปเป็นของกลาง 

ขณะที่ นายสมนึก กุลหลัด หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินการของตน ได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ให้มาตรวจสอบชนิดของไม้ และปริมาตร เพื่อที่จะนำไปสู่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน และเพื่อตรวจสอบว่าไม้ดังกล่าวนี้เป็นไม้ที่ได้มาจากที่ดินประเภทใดเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน วันนี้ขบวนการของการตรวจสอบไม้คงยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากไม้มีปริมาณที่เยอะ ประกอบกับกำลังพลน้อย และเครื่องจักรของทางโรงงานไม้สามารถดำเนินการได้ อาจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน จึงจะสามารถตรวจสอบและเคลื่อนย้ายไม้ออกไปได้ให้แล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมูลค่าในขณะนี้ไม้จำนวนดังกล่าวหากนำไปขายจะมีมูลค่าอย่างมหาศาล แต่ยังไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ภาพ/ข่าว : ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.ตรัง