จากความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ ทางด้าน "หมอเหรียญทอง" หรือ พลตรีเหรียญทอง แน่นหนา ระบุไว้ว่า
...
ผมขออนุญาตเสนอแนะให้รัฐบาลเตรียม
'ระบบสำรองยาและเวชภัณฑ์ในสถานการณ์สงคราม' ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่บัดนี้
ทั้งต้องเตรียมการผ่อนปรนกฎระเบียบการนำเข้ายาเวชภัณฑ์ให้พร้อมรับสถานการณ์สงครามล่วงหน้า
เนื่องจากหากสถานการณ์สงครามยืดเยื้อและขยายวงกว้างแล้ว
ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสูงอย่างก้าวกระโดด ทั้งยังจะเกิดปัญหาการผลิตที่ไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดการขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ ยังไม่นับรวมหากกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ใช้เป็นมาตรการกดดันไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยการไม่ส่งออกยาเวชภัณฑ์
(อันนี้ผมมโนเองไปในทางเลวร้ายเองนะครับ แต่เราไม่ควรประมาท)
ดังนั้น รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย) จำเป็นต้องเตรียม 'ระบบสำรองยาและเวชภัณฑ์ในสถานการณ์สงคราม' ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่บัดนี้ ทั้งยังต้องเตรียมการผ่อนปรนกฎระเบียบการนำเข้ายาเวชภัณฑ์ในสถานการณ์สงครามล่วงหน้า เพื่อเพิ่มช่องทางการนำเข้ายาและเวชภัณฑ์จากกลุ่มประเทศอื่นๆ
เพื่อเป็นทางเลือกในยามจำเป็น เช่น อินเดีย , จีน ฯลฯ ให้มีสัดส่วนนำเข้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนยาเวชภัณฑ์ ตลอดจนต้นทุนที่จะสูงขึ้นในสถานการณ์สงครามซึ่งถือว่าเป็น 'สถานการณ์ฉุกเฉินของชาติ' (ได้โปรดอย่านำกฎระเบียบปฏิบัติในสถานการณ์ปกติมาใช้ในสถานการณ์สงครามซึ่งเป็นสถานการณ๋ฉุกเฉินกันนะครับ มันจะเป็นอุปสรรคต่อการรักษาชีวิตของคนในชาติเป็นอย่างมาก)
ด้วยความปรารถนาดี
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
9 มี.ค.65 เวลา 9.19 น.